GeForce RTX 4080 เทียบกับ GTX 1050 Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1050 Max-Q กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1050 Max-Q อย่างมหาศาลถึง 753% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 445 | 5 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 29.10 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.62 | 19.24 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP107 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1190 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1328 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,300 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 53.12 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.7 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 16 | 112 |
TMUs | 40 | 304 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 304 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1752 MHz | 1400 MHz |
112.1 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 46
−402%
| 231
+402%
|
1440p | 27
−496%
| 161
+496%
|
4K | 14
−650%
| 105
+650%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.19 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 7.45 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 11.42 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 24−27
−904%
|
240−250
+904%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−526%
|
300−350
+526%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−1055%
|
231
+1055%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 24−27
−846%
|
227
+846%
|
Battlefield 5 | 46
−328%
|
190−200
+328%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−504%
|
320
+504%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−1055%
|
231
+1055%
|
Far Cry 5 | 37
−503%
|
223
+503%
|
Fortnite | 112
−170%
|
300−350
+170%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−700%
|
300−350
+700%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−730%
|
249
+730%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−406%
|
170−180
+406%
|
Valorant | 90−95
−492%
|
550−600
+492%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−754%
|
205
+754%
|
Battlefield 5 | 40
−393%
|
190−200
+393%
|
Counter-Strike 2 | 50−55
−498%
|
317
+498%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 144
−93.1%
|
270−280
+93.1%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−950%
|
210
+950%
|
Dota 2 | 116
−115%
|
249
+115%
|
Far Cry 5 | 34
−541%
|
218
+541%
|
Fortnite | 49
−516%
|
300−350
+516%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−700%
|
300−350
+700%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−697%
|
239
+697%
|
Grand Theft Auto V | 45
−296%
|
178
+296%
|
Metro Exodus | 19
−1021%
|
213
+1021%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 51
−247%
|
170−180
+247%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−1457%
|
545
+1457%
|
Valorant | 90−95
−492%
|
550−600
+492%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
−432%
|
190−200
+432%
|
Cyberpunk 2077 | 20−22
−850%
|
190
+850%
|
Dota 2 | 104
−124%
|
233
+124%
|
Far Cry 5 | 31
−558%
|
204
+558%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−700%
|
300−350
+700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 34
−421%
|
170−180
+421%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
−1129%
|
258
+1129%
|
Valorant | 90−95
−518%
|
575
+518%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 37
−716%
|
300−350
+716%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
−1339%
|
259
+1339%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 94
−449%
|
500−550
+449%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
−1057%
|
162
+1057%
|
Metro Exodus | 11
−1300%
|
154
+1300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−257%
|
170−180
+257%
|
Valorant | 100−110
−345%
|
450−500
+345%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 24−27
−717%
|
190−200
+717%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−1513%
|
129
+1513%
|
Far Cry 5 | 22
−814%
|
201
+814%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−1175%
|
300−350
+1175%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−1173%
|
191
+1173%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 21−24
−619%
|
150−160
+619%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 8−9
−1025%
|
90−95
+1025%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−2575%
|
107
+2575%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 53
−749%
|
450−500
+749%
|
Grand Theft Auto V | 28
−561%
|
185
+561%
|
Metro Exodus | 7
−1386%
|
104
+1386%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 13
−1338%
|
187
+1338%
|
Valorant | 50−55
−538%
|
300−350
+538%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
−1033%
|
130−140
+1033%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−3075%
|
120−130
+3075%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−2000%
|
63
+2000%
|
Dota 2 | 37
−514%
|
227
+514%
|
Far Cry 5 | 11
−1173%
|
140
+1173%
|
Forza Horizon 4 | 16−18
−1671%
|
300−350
+1671%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 11
−773%
|
95−100
+773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 9
−778%
|
75−80
+778%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1050 Max-Q และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 402% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 496% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 650% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 3075%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4080 เหนือกว่า GTX 1050 Max-Q ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 9.06 | 77.28 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2018 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 1050 Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 326.7%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 753% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1050 Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce GTX 1050 Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป