TITAN RTX เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ TITAN RTX โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
TITAN RTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 56 อย่างน่าสนใจ 43% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 163 | 72 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 20.49 | 2.12 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.11 | 11.96 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | TU102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 18 ธันวาคม 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $2,499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX Vega 56 มีความคุ้มค่ามากกว่า TITAN RTX อยู่ 867%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 1350 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 1770 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 18,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 280 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 509.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 16.31 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 224 | 288 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 576 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 72 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 384 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1750 MHz |
409.6 จีบี/s | 672.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
−40%
| 161
+40%
|
1440p | 77
−32.5%
| 102
+32.5%
|
4K | 50
−46%
| 73
+46%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
+347%
| 15.52
−347%
|
1440p | 5.18
+373%
| 24.50
−373%
|
4K | 7.98
+329%
| 34.23
−329%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−187%
|
264
+187%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−92.9%
|
353
+92.9%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−9.7%
|
79
+9.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−115%
|
198
+115%
|
Battlefield 5 | 151
−7.9%
|
163
+7.9%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−86.9%
|
342
+86.9%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−9.7%
|
79
+9.7%
|
Far Cry 5 | 98
−68.4%
|
165
+68.4%
|
Fortnite | 150
−12.7%
|
169
+12.7%
|
Forza Horizon 4 | 141
−32.6%
|
187
+32.6%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−68%
|
168
+68%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
−32%
|
202
+32%
|
Valorant | 190−200
−75.8%
|
348
+75.8%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
−28.3%
|
118
+28.3%
|
Battlefield 5 | 140
−17.1%
|
164
+17.1%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
−47.5%
|
270
+47.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−9.7%
|
79
+9.7%
|
Dota 2 | 130−140
−14%
|
155
+14%
|
Far Cry 5 | 93
−67.7%
|
156
+67.7%
|
Fortnite | 139
−26.6%
|
176
+26.6%
|
Forza Horizon 4 | 134
−38.8%
|
186
+38.8%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
−53%
|
153
+53%
|
Grand Theft Auto V | 94
−61.7%
|
152
+61.7%
|
Metro Exodus | 70
−91.4%
|
134
+91.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
−19%
|
163
+19%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
−115%
|
267
+115%
|
Valorant | 190−200
−69.7%
|
336
+69.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−22.1%
|
160
+22.1%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−8.3%
|
78
+8.3%
|
Dota 2 | 130−140
−8.8%
|
148
+8.8%
|
Far Cry 5 | 89
−64%
|
146
+64%
|
Forza Horizon 4 | 109
−60.6%
|
175
+60.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
−13.3%
|
136
+13.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
−87.8%
|
139
+87.8%
|
Valorant | 190−200
−19.2%
|
236
+19.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
−24.1%
|
134
+24.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
−104%
|
157
+104%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−43.2%
|
300−350
+43.2%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
−83.9%
|
114
+83.9%
|
Metro Exodus | 42
−102%
|
85
+102%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−31.2%
|
307
+31.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
−13.1%
|
110−120
+13.1%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−88.6%
|
66
+88.6%
|
Far Cry 5 | 74
−81.1%
|
134
+81.1%
|
Forza Horizon 4 | 88
−78.4%
|
157
+78.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−59.6%
|
90−95
+59.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
−66.2%
|
120−130
+66.2%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−52%
|
35−40
+52%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−25%
|
45
+25%
|
Grand Theft Auto V | 50
−168%
|
134
+168%
|
Metro Exodus | 27
−104%
|
55
+104%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−134%
|
103
+134%
|
Valorant | 190−200
−56.3%
|
300
+56.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−76.4%
|
97
+76.4%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
−55.6%
|
55−60
+55.6%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−120%
|
33
+120%
|
Dota 2 | 95−100
−50.5%
|
146
+50.5%
|
Far Cry 5 | 39
−105%
|
80
+105%
|
Forza Horizon 4 | 59
−93.2%
|
114
+93.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
−118%
|
96
+118%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
−100%
|
74
+100%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ TITAN RTX แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เร็วกว่า 40% ในความละเอียด 1080p
- TITAN RTX เร็วกว่า 32% ในความละเอียด 1440p
- TITAN RTX เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ TITAN RTX เร็วกว่า 187%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- TITAN RTX เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.42 | 42.20 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 18 ธันวาคม 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 24 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 280 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 33.3%
ในทางกลับกัน TITAN RTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 43.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
TITAN RTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ