Radeon Pro 560 เทียบกับ RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 กับ Radeon Pro 560 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX Vega 56 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 560 อย่างมหาศาลถึง 279% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 158 | 492 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.44 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.18 | 8.26 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | GCN 4.0 (2016−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | Polaris 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เวิร์กสเตชันแบบพกพา |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 907 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 3,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 75 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 58.05 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 1.858 TFLOPS |
ROPs | 64 | 16 |
TMUs | 224 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x8 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1270 MHz |
409.6 จีบี/s | 81.28 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
+283%
| 30−35
−283%
|
1440p | 77
+328%
| 18−21
−328%
|
4K | 50
+317%
| 12−14
−317%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.18 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.98 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
+338%
|
21−24
−338%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+325%
|
16−18
−325%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+324%
|
16−18
−324%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
+338%
|
21−24
−338%
|
Battlefield 5 | 151
+308%
|
35−40
−308%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+325%
|
16−18
−325%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+324%
|
16−18
−324%
|
Far Cry 5 | 98
+250%
|
27−30
−250%
|
Fortnite | 150
+194%
|
50−55
−194%
|
Forza Horizon 4 | 141
+281%
|
35−40
−281%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+343%
|
21−24
−343%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
+410%
|
30−33
−410%
|
Valorant | 190−200
+133%
|
85−90
−133%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+338%
|
21−24
−338%
|
Battlefield 5 | 140
+278%
|
35−40
−278%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+325%
|
16−18
−325%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+109%
|
130−140
−109%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+324%
|
16−18
−324%
|
Dota 2 | 130−140
+117%
|
60−65
−117%
|
Far Cry 5 | 93
+232%
|
27−30
−232%
|
Fortnite | 139
+173%
|
50−55
−173%
|
Forza Horizon 4 | 134
+262%
|
35−40
−262%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+343%
|
21−24
−343%
|
Grand Theft Auto V | 94
+194%
|
30−35
−194%
|
Metro Exodus | 70
+312%
|
16−18
−312%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
+357%
|
30−33
−357%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
+464%
|
21−24
−464%
|
Valorant | 190−200
+133%
|
85−90
−133%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
+254%
|
35−40
−254%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+325%
|
16−18
−325%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+324%
|
16−18
−324%
|
Dota 2 | 130−140
+117%
|
60−65
−117%
|
Far Cry 5 | 89
+218%
|
27−30
−218%
|
Forza Horizon 4 | 109
+195%
|
35−40
−195%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+343%
|
21−24
−343%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
+300%
|
30−33
−300%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
+236%
|
21−24
−236%
|
Valorant | 190−200
+133%
|
85−90
−133%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
+112%
|
50−55
−112%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+286%
|
7−8
−286%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
+238%
|
65−70
−238%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
+417%
|
12−14
−417%
|
Metro Exodus | 42
+367%
|
9−10
−367%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+298%
|
40−45
−298%
|
Valorant | 230−240
+144%
|
95−100
−144%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
+421%
|
18−20
−421%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+400%
|
7−8
−400%
|
Far Cry 5 | 74
+311%
|
18−20
−311%
|
Forza Horizon 4 | 88
+340%
|
20−22
−340%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+280%
|
14−16
−280%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+338%
|
12−14
−338%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
+335%
|
16−18
−335%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+257%
|
7−8
−257%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+400%
|
3−4
−400%
|
Grand Theft Auto V | 50
+163%
|
18−20
−163%
|
Metro Exodus | 27
+575%
|
4−5
−575%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+450%
|
8−9
−450%
|
Valorant | 190−200
+336%
|
40−45
−336%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
+511%
|
9−10
−511%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+400%
|
3−4
−400%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+400%
|
3−4
−400%
|
Dota 2 | 95−100
+213%
|
30−35
−213%
|
Far Cry 5 | 39
+333%
|
9−10
−333%
|
Forza Horizon 4 | 59
+321%
|
14−16
−321%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+450%
|
6−7
−450%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
+450%
|
8−9
−450%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
+363%
|
8−9
−363%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ Pro 560 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เร็วกว่า 283% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 328% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 317% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 575%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.81 | 8.93 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 18 เมษายน 2017 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 75 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 278.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 เดือนและ
ในทางกลับกัน Pro 560 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 180%
Radeon RX Vega 56 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 560 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega 56 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon Pro 560 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา