GeForce RTX 3060 เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 และ GeForce RTX 3060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega 56 อย่างมหาศาล 30% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 156 | 84 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 5 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 23.70 | 69.89 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.18 | 17.93 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | GA106 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 12 มกราคม 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $329 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 56 อยู่ 195%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 1320 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 1777 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 12,000 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 170 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 199.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 12.74 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 224 | 112 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1875 MHz |
409.6 จีบี/s | 360.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.3 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
−2.6%
| 118
+2.6%
|
1440p | 77
+13.2%
| 68
−13.2%
|
4K | 50
+6.4%
| 47
−6.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
−24.4%
| 2.79
+24.4%
|
1440p | 5.18
−7.1%
| 4.84
+7.1%
|
4K | 7.98
−14%
| 7.00
+14%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
−34.4%
|
120−130
+34.4%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−39.1%
|
95−100
+39.1%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−9.7%
|
79
+9.7%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
−34.4%
|
120−130
+34.4%
|
Battlefield 5 | 151
+10.2%
|
130−140
−10.2%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−40.6%
|
97
+40.6%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−8.3%
|
78
+8.3%
|
Far Cry 5 | 98
−49%
|
146
+49%
|
Fortnite | 150
−17.3%
|
170−180
+17.3%
|
Forza Horizon 4 | 141
−12.1%
|
150−160
+12.1%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−33.3%
|
124
+33.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
−3.9%
|
150−160
+3.9%
|
Valorant | 190−200
−18.7%
|
230−240
+18.7%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
−34.4%
|
120−130
+34.4%
|
Battlefield 5 | 140
+2.2%
|
130−140
−2.2%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−20.3%
|
83
+20.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.7%
|
270−280
+0.7%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
−4.2%
|
75
+4.2%
|
Dota 2 | 130−140
−13.9%
|
156
+13.9%
|
Far Cry 5 | 93
−45.2%
|
135
+45.2%
|
Fortnite | 139
−26.6%
|
170−180
+26.6%
|
Forza Horizon 4 | 134
−17.9%
|
150−160
+17.9%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
−3.2%
|
96
+3.2%
|
Grand Theft Auto V | 94
−50%
|
141
+50%
|
Metro Exodus | 70
−15.7%
|
81
+15.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
−16.1%
|
150−160
+16.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
−43.5%
|
178
+43.5%
|
Valorant | 190−200
−18.7%
|
230−240
+18.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
−4.6%
|
130−140
+4.6%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
−4.3%
|
72
+4.3%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+12.5%
|
64
−12.5%
|
Dota 2 | 130−140
−7.3%
|
147
+7.3%
|
Far Cry 5 | 89
−42.7%
|
127
+42.7%
|
Forza Horizon 4 | 109
−45%
|
150−160
+45%
|
Forza Horizon 5 | 90−95
+17.7%
|
79
−17.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
−32.5%
|
150−160
+32.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
−10.8%
|
82
+10.8%
|
Valorant | 190−200
−18.7%
|
230−240
+18.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
−63%
|
170−180
+63%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−18.5%
|
30−35
+18.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
−28.8%
|
280−290
+28.8%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
−30.6%
|
81
+30.6%
|
Metro Exodus | 42
−19%
|
50
+19%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−13.2%
|
260−270
+13.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
−5.1%
|
100−110
+5.1%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−11.4%
|
39
+11.4%
|
Far Cry 5 | 74
−27%
|
94
+27%
|
Forza Horizon 4 | 88
−35.2%
|
110−120
+35.2%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−8.8%
|
62
+8.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
−26.3%
|
72
+26.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
−48.6%
|
110−120
+48.6%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
−36%
|
30−35
+36%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−33.3%
|
20−22
+33.3%
|
Grand Theft Auto V | 50
−64%
|
82
+64%
|
Metro Exodus | 27
−18.5%
|
32
+18.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
−45.5%
|
64
+45.5%
|
Valorant | 190−200
−29.7%
|
240−250
+29.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−20%
|
65−70
+20%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
+66.7%
|
9
−66.7%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−20%
|
18
+20%
|
Dota 2 | 95−100
−18.6%
|
115
+18.6%
|
Far Cry 5 | 39
−23.1%
|
48
+23.1%
|
Forza Horizon 4 | 59
−35.6%
|
80−85
+35.6%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
−9.1%
|
36
+9.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
−31.8%
|
55−60
+31.8%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
−48.6%
|
55−60
+48.6%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ RTX 3060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 13% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 6% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 67%
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 เร็วกว่า 64%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (7%)
- RTX 3060 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (91%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 34.15 | 44.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 12 มกราคม 2021 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 170 วัตต์ |
RTX 3060 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 29.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 75%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 23.5%
GeForce RTX 3060 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega 56 ในการทดสอบประสิทธิภาพ