GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เทียบกับ Radeon RX Vega 56
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega 56 กับ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX Vega 56 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 Ti Max-Q อย่างน่าสนใจ 49% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 166 | 263 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.23 | 68.97 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.03 | 25.98 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 10 | TU116 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 สิงหาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 23 เมษายน 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $229 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti Max-Q มีความคุ้มค่ามากกว่า RX Vega 56 อยู่ 210%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3584 | 1536 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1156 MHz | 1140 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1471 MHz | 1335 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 12,500 million | 6,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 Watt | 60 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 329.5 | 128.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 10.54 TFLOPS | 4.101 TFLOPS |
ROPs | 64 | 48 |
TMUs | 224 | 96 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 2048 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1500 MHz |
409.6 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.125 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 115
+45.6%
| 79
−45.6%
|
1440p | 77
+54%
| 50−55
−54%
|
4K | 50
+51.5%
| 33
−51.5%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.47
−19.7%
| 2.90
+19.7%
|
1440p | 5.18
−13.1%
| 4.58
+13.1%
|
4K | 7.98
−15%
| 6.94
+15%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 180−190
+46.8%
|
120−130
−46.8%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+56.5%
|
45−50
−56.5%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+65.1%
|
40−45
−65.1%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 151
+81.9%
|
83
−81.9%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+46.8%
|
120−130
−46.8%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+56.5%
|
45−50
−56.5%
|
Far Cry 5 | 98
+42%
|
69
−42%
|
Fortnite | 150
+63%
|
92
−63%
|
Forza Horizon 4 | 141
+62.1%
|
85−90
−62.1%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+47.1%
|
65−70
−47.1%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+65.1%
|
40−45
−65.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 153
+84.3%
|
80−85
−84.3%
|
Valorant | 190−200
+27.9%
|
150−160
−27.9%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 140
+79.5%
|
78
−79.5%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+46.8%
|
120−130
−46.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+13.1%
|
240−250
−13.1%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+56.5%
|
45−50
−56.5%
|
Dota 2 | 130−140
+44.7%
|
94
−44.7%
|
Far Cry 5 | 93
+40.9%
|
66
−40.9%
|
Fortnite | 139
+54.4%
|
90
−54.4%
|
Forza Horizon 4 | 134
+54%
|
85−90
−54%
|
Forza Horizon 5 | 100−105
+47.1%
|
65−70
−47.1%
|
Grand Theft Auto V | 94
+8%
|
87
−8%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+65.1%
|
40−45
−65.1%
|
Metro Exodus | 70
+45.8%
|
48
−45.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 137
+65.1%
|
80−85
−65.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 124
+34.8%
|
92
−34.8%
|
Valorant | 190−200
+27.9%
|
150−160
−27.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 131
+79.5%
|
73
−79.5%
|
Cyberpunk 2077 | 70−75
+56.5%
|
45−50
−56.5%
|
Dota 2 | 130−140
+58.1%
|
86
−58.1%
|
Far Cry 5 | 89
+43.5%
|
62
−43.5%
|
Forza Horizon 4 | 109
+25.3%
|
85−90
−25.3%
|
Hogwarts Legacy | 70−75
+65.1%
|
40−45
−65.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
+44.6%
|
80−85
−44.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 74
+45.1%
|
51
−45.1%
|
Valorant | 190−200
+112%
|
93
−112%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 108
+36.7%
|
79
−36.7%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 75−80
+67.4%
|
45−50
−67.4%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
+43.8%
|
150−160
−43.8%
|
Grand Theft Auto V | 60−65
+63.2%
|
35−40
−63.2%
|
Metro Exodus | 42
+50%
|
27−30
−50%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0.6%
|
170−180
−0.6%
|
Valorant | 230−240
+21.2%
|
190−200
−21.2%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 99
+65%
|
60−65
−65%
|
Cyberpunk 2077 | 30−35
+61.9%
|
21−24
−61.9%
|
Far Cry 5 | 74
+54.2%
|
45−50
−54.2%
|
Forza Horizon 4 | 88
+60%
|
55−60
−60%
|
Hogwarts Legacy | 35−40
+54.2%
|
24−27
−54.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+67.6%
|
30−35
−67.6%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 74
+48%
|
50−55
−48%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
+75%
|
20−22
−75%
|
Grand Theft Auto V | 50
+28.2%
|
35−40
−28.2%
|
Hogwarts Legacy | 20−22
+42.9%
|
14−16
−42.9%
|
Metro Exodus | 27
+50%
|
18−20
−50%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+41.9%
|
31
−41.9%
|
Valorant | 190−200
+54.8%
|
120−130
−54.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
+44.7%
|
38
−44.7%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+75%
|
20−22
−75%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
+66.7%
|
9−10
−66.7%
|
Dota 2 | 95−100
+34.7%
|
70−75
−34.7%
|
Far Cry 5 | 39
+30%
|
30
−30%
|
Forza Horizon 4 | 59
+55.3%
|
35−40
−55.3%
|
Hogwarts Legacy | 20−22
+42.9%
|
14−16
−42.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 44
+100%
|
21−24
−100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 37
+60.9%
|
21−24
−60.9%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega 56 และ GTX 1660 Ti Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 56 เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 54% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 56 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 56 เร็วกว่า 112%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX Vega 56 เหนือกว่า GTX 1660 Ti Max-Q ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 32.78 | 22.05 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 สิงหาคม 2017 | 23 เมษายน 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 6 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 210 วัตต์ | 60 วัตต์ |
RX Vega 56 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 48.7% และ
ในทางกลับกัน GTX 1660 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 250%
Radeon RX Vega 56 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega 56 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce GTX 1660 Ti Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก