GeForce RTX 5060 Ti เทียบกับ Radeon RX 6500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 6500M กับ GeForce RTX 5060 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6500M อย่างมหาศาลถึง 202% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 330 | 54 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 83 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 83.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 26.99 | 22.60 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 24 | GB206 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 16 เมษายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2000 MHz | 2407 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2400 MHz | 2572 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,400 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 153.6 | 370.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.915 TFLOPS | 23.7 TFLOPS |
ROPs | 32 | 48 |
TMUs | 64 | 144 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 144 |
Ray Tracing Cores | 16 | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x4 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 241 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2250 MHz | 1750 MHz |
144.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 61
−175%
| 168
+175%
|
1440p | 27−30
−204%
| 82
+204%
|
4K | 16−18
−225%
| 52
+225%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.26 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.62 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.29 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−166%
|
270−280
+166%
|
Cyberpunk 2077 | 66
−103%
|
130−140
+103%
|
HELLDIVERS 2 | 43
−219%
|
130−140
+219%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−166%
|
270−280
+166%
|
Cyberpunk 2077 | 67
−100%
|
130−140
+100%
|
Far Cry 5 | 75
−260%
|
270
+260%
|
Fortnite | 95−100
−149%
|
240−250
+149%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−180%
|
210−220
+180%
|
Forza Horizon 5 | 101
−63.4%
|
160−170
+63.4%
|
HELLDIVERS 2 | 33
−315%
|
130−140
+315%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−154%
|
170−180
+154%
|
Valorant | 130−140
−115%
|
290−300
+115%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−166%
|
270−280
+166%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−23%
|
270−280
+23%
|
Cyberpunk 2077 | 32
−319%
|
130−140
+319%
|
Dota 2 | 102
−194%
|
300−310
+194%
|
Far Cry 5 | 71
−249%
|
248
+249%
|
Fortnite | 95−100
−149%
|
240−250
+149%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−180%
|
210−220
+180%
|
Forza Horizon 5 | 81
−104%
|
160−170
+104%
|
Grand Theft Auto V | 69
−128%
|
150−160
+128%
|
HELLDIVERS 2 | 25
−448%
|
130−140
+448%
|
Metro Exodus | 50
−174%
|
130−140
+174%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−154%
|
170−180
+154%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−482%
|
332
+482%
|
Valorant | 130−140
−115%
|
290−300
+115%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Cyberpunk 2077 | 29
−362%
|
130−140
+362%
|
Dota 2 | 95
−195%
|
280−290
+195%
|
Far Cry 5 | 66
−252%
|
232
+252%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−180%
|
210−220
+180%
|
HELLDIVERS 2 | 12
−1042%
|
130−140
+1042%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−154%
|
170−180
+154%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 39
−305%
|
158
+305%
|
Valorant | 130−140
−115%
|
290−300
+115%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 95−100
−149%
|
240−250
+149%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−308%
|
150−160
+308%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−199%
|
350−400
+199%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−274%
|
110−120
+274%
|
Metro Exodus | 21−24
−278%
|
85−90
+278%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−3.6%
|
170−180
+3.6%
|
Valorant | 170−180
−94.9%
|
300−350
+94.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−156%
|
130−140
+156%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−324%
|
70−75
+324%
|
Far Cry 5 | 40−45
−293%
|
161
+293%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−276%
|
170−180
+276%
|
HELLDIVERS 2 | 24−27
−264%
|
90−95
+264%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−325%
|
119
+325%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−260%
|
150−160
+260%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−344%
|
70−75
+344%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−297%
|
130−140
+297%
|
HELLDIVERS 2 | 12−14
−269%
|
45−50
+269%
|
Metro Exodus | 14−16
−267%
|
55−60
+267%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−288%
|
101
+288%
|
Valorant | 100−110
−201%
|
300−350
+201%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−232%
|
90−95
+232%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−344%
|
70−75
+344%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−386%
|
30−35
+386%
|
Dota 2 | 60−65
−202%
|
190−200
+202%
|
Far Cry 5 | 20−22
−320%
|
84
+320%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−288%
|
120−130
+288%
|
HELLDIVERS 2 | 12−14
−269%
|
45−50
+269%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18−20
−428%
|
95−100
+428%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−316%
|
75−80
+316%
|
นี่คือวิธีที่ RX 6500M และ RTX 5060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 175% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 204% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 225% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม HELLDIVERS 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 1042%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5060 Ti เหนือกว่า RX 6500M ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 17.95 | 54.23 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 มกราคม 2022 | 16 เมษายน 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 50 วัตต์ | 180 วัตต์ |
RX 6500M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 260%
ในทางกลับกัน RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 202.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
GeForce RTX 5060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 6500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 6500M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 5060 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป