GeForce RTX 3070 เทียบกับ Radeon RX 590
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 590 และ GeForce RTX 3070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 590 อย่างมหาศาลถึง 138% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 241 | 48 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 40 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.03 | 57.51 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 9.55 | 18.05 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 30 | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 15 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $499 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 590 อยู่ 161%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1469 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1545 MHz | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 222.5 | 317.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 7.119 TFLOPS | 20.31 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 144 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 184 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1750 MHz |
256.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 8.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 103
−43.7%
| 148
+43.7%
|
1440p | 62
−61.3%
| 100
+61.3%
|
4K | 38
−68.4%
| 64
+68.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.71
+24.5%
| 3.37
−24.5%
|
1440p | 4.50
+10.9%
| 4.99
−10.9%
|
4K | 7.34
+6.2%
| 7.80
−6.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 60−65
−324%
|
263
+324%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−114%
|
280−290
+114%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−200%
|
147
+200%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 60−65
−216%
|
196
+216%
|
Battlefield 5 | 133
−12%
|
149
+12%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−150%
|
330
+150%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−184%
|
139
+184%
|
Far Cry 5 | 85
−81.2%
|
154
+81.2%
|
Fortnite | 139
−69.8%
|
230−240
+69.8%
|
Forza Horizon 4 | 120
−72.5%
|
200−210
+72.5%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−118%
|
159
+118%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 120
−47.5%
|
170−180
+47.5%
|
Valorant | 301
+2.4%
|
290−300
−2.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 60−65
−82.3%
|
113
+82.3%
|
Battlefield 5 | 111
−18.9%
|
132
+18.9%
|
Counter-Strike 2 | 130−140
−94.7%
|
257
+94.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
−10.8%
|
270−280
+10.8%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−157%
|
126
+157%
|
Dota 2 | 110−120
−11.8%
|
133
+11.8%
|
Far Cry 5 | 79
−87.3%
|
148
+87.3%
|
Fortnite | 138
−71%
|
230−240
+71%
|
Forza Horizon 4 | 113
−83.2%
|
200−210
+83.2%
|
Forza Horizon 5 | 70−75
−103%
|
148
+103%
|
Grand Theft Auto V | 79
−75.9%
|
139
+75.9%
|
Metro Exodus | 52
−131%
|
120
+131%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 108
−63.9%
|
170−180
+63.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 88
−161%
|
230
+161%
|
Valorant | 287
−2.4%
|
290−300
+2.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100
−19%
|
119
+19%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−108%
|
102
+108%
|
Dota 2 | 110−120
−5%
|
125
+5%
|
Far Cry 5 | 74
−90.5%
|
141
+90.5%
|
Forza Horizon 4 | 91
−127%
|
200−210
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 83
−113%
|
170−180
+113%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 51
−137%
|
121
+137%
|
Valorant | 110
−115%
|
237
+115%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 96
−146%
|
230−240
+146%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 50−55
−234%
|
167
+234%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−138%
|
350−400
+138%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−139%
|
98
+139%
|
Metro Exodus | 31
−142%
|
75
+142%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 232
−43.1%
|
300−350
+43.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−60.9%
|
103
+60.9%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−182%
|
62
+182%
|
Far Cry 5 | 50−55
−140%
|
125
+140%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−186%
|
160−170
+186%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−200%
|
110−120
+200%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−178%
|
150−160
+178%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−156%
|
45−50
+156%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−95.5%
|
43
+95.5%
|
Grand Theft Auto V | 41
−185%
|
117
+185%
|
Metro Exodus | 19
−158%
|
49
+158%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 32
−181%
|
90
+181%
|
Valorant | 113
−172%
|
300−350
+172%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40
−75%
|
70
+75%
|
Counter-Strike 2 | 21−24
−214%
|
65−70
+214%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−200%
|
30
+200%
|
Dota 2 | 75−80
−64.5%
|
125
+64.5%
|
Far Cry 5 | 24
−192%
|
70
+192%
|
Forza Horizon 4 | 46
−161%
|
120−130
+161%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35
−166%
|
90−95
+166%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 29
−169%
|
75−80
+169%
|
นี่คือวิธีที่ RX 590 และ RTX 3070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เร็วกว่า 44% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 เร็วกว่า 61% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 เร็วกว่า 68% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 590 เร็วกว่า 2%
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 324%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 590 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 20.97 | 49.85 |
ความใหม่ล่าสุด | 15 พฤศจิกายน 2018 | 1 กันยายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 175 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RX 590 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 25.7%
ในทางกลับกัน RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 137.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 50%
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 590 ในการทดสอบประสิทธิภาพ