GeForce MX250 เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 กับ GeForce MX250 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX250 อย่างมหาศาลถึง 269% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 589 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.58 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.56 | 42.94 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GP108B |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 937 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 1038 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 10 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 24.91 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 0.7972 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 144 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x4 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1502 MHz |
256.0 จีบี/s | 48.06 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 (6.4) |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 97
+322%
| 23
−322%
|
1440p | 43
+330%
| 10−12
−330%
|
4K | 37
+270%
| 10−12
−270%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.33 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.19 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
+115%
|
27
−115%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+215%
|
12−14
−215%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+229%
|
14
−229%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
+190%
|
20
−190%
|
Battlefield 5 | 124
+417%
|
24
−417%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+215%
|
12−14
−215%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+318%
|
11
−318%
|
Far Cry 5 | 83
+337%
|
19
−337%
|
Fortnite | 153
+178%
|
55
−178%
|
Forza Horizon 4 | 108
+248%
|
31
−248%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+281%
|
16
−281%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+204%
|
28
−204%
|
Valorant | 150−160
+30.5%
|
118
−30.5%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+729%
|
7
−729%
|
Battlefield 5 | 102
+437%
|
19
−437%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+720%
|
5
−720%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+150%
|
95−100
−150%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+283%
|
12−14
−283%
|
Dota 2 | 110−120
+81.3%
|
64
−81.3%
|
Far Cry 5 | 76
+347%
|
17
−347%
|
Fortnite | 106
+324%
|
25
−324%
|
Forza Horizon 4 | 101
+321%
|
24
−321%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+336%
|
14−16
−336%
|
Grand Theft Auto V | 77
+175%
|
28
−175%
|
Metro Exodus | 48
+586%
|
7
−586%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+204%
|
23
−204%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+243%
|
21
−243%
|
Valorant | 150−160
+33.9%
|
115
−33.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
+564%
|
14
−564%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+215%
|
12−14
−215%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+283%
|
12−14
−283%
|
Dota 2 | 110−120
+104%
|
57
−104%
|
Far Cry 5 | 71
+344%
|
16
−344%
|
Forza Horizon 4 | 82
+413%
|
16
−413%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+336%
|
14−16
−336%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
+158%
|
19
−158%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+267%
|
12
−267%
|
Valorant | 150−160
+130%
|
65−70
−130%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
+264%
|
22
−264%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+340%
|
5−6
−340%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
+242%
|
45−50
−242%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+443%
|
7−8
−443%
|
Metro Exodus | 28
+460%
|
5−6
−460%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+370%
|
35−40
−370%
|
Valorant | 190−200
+192%
|
65−70
−192%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+578%
|
9−10
−578%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+320%
|
5−6
−320%
|
Far Cry 5 | 45−50
+345%
|
10−12
−345%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+293%
|
14−16
−293%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+333%
|
9−10
−333%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+289%
|
9−10
−289%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+325%
|
12−14
−325%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+240%
|
5−6
−240%
|
Counter-Strike 2 | 10−11 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 57
+235%
|
16−18
−235%
|
Metro Exodus | 18 | 0−1 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
+800%
|
3−4
−800%
|
Valorant | 120−130
+313%
|
30−33
−313%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
+825%
|
4−5
−825%
|
Counter-Strike 2 | 10−11 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Dota 2 | 70−75
+243%
|
21−24
−243%
|
Far Cry 5 | 26
+333%
|
6−7
−333%
|
Forza Horizon 4 | 41
+356%
|
9−10
−356%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+567%
|
3−4
−567%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+200%
|
6−7
−200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+283%
|
6−7
−283%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 8−9
+0%
|
8−9
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ GeForce MX250 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 322% ในความละเอียด 1080p
- RX 580 เร็วกว่า 330% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 270% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 825%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.71 | 6.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 20 กุมภาพันธ์ 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 10 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 268.7% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX250 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1750%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX250 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX250 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก