GeForce MX350 เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 กับ GeForce MX350 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX350 อย่างมหาศาลถึง 215% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 251 | 547 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.68 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.53 | 25.06 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GP107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 10 กุมภาพันธ์ 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 640 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 747 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 937 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 20 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 29.98 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 1.199 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 144 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1752 MHz |
256.0 จีบี/s | 56.06 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 97
+259%
| 27
−259%
|
1440p | 43
+38.7%
| 31
−38.7%
|
4K | 37
+42.3%
| 26
−42.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.36 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.33 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.19 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 55−60
+87.1%
|
31
−87.1%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+193%
|
14
−193%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+188%
|
16
−188%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 55−60
+142%
|
24
−142%
|
Battlefield 5 | 124
+235%
|
37
−235%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+273%
|
11
−273%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+318%
|
11
−318%
|
Far Cry 5 | 83
+207%
|
27
−207%
|
Fortnite | 153
+86.6%
|
82
−86.6%
|
Forza Horizon 4 | 108
+192%
|
37
−192%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+190%
|
21
−190%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85
+240%
|
24−27
−240%
|
Valorant | 150−160
+19.4%
|
129
−19.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 55−60
+729%
|
7
−729%
|
Battlefield 5 | 102
+240%
|
30
−240%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+193%
|
14−16
−193%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
+104%
|
120
−104%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+667%
|
6
−667%
|
Dota 2 | 110−120
+39.8%
|
83
−39.8%
|
Far Cry 5 | 76
+230%
|
23
−230%
|
Fortnite | 106
+147%
|
43
−147%
|
Forza Horizon 4 | 101
+288%
|
26
−288%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+281%
|
16−18
−281%
|
Grand Theft Auto V | 77
+120%
|
35
−120%
|
Metro Exodus | 48
+300%
|
12
−300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+180%
|
24−27
−180%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
+167%
|
27
−167%
|
Valorant | 150−160
+32.8%
|
116
−32.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 93
+288%
|
24
−288%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+193%
|
14−16
−193%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+820%
|
5
−820%
|
Dota 2 | 110−120
+52.6%
|
76
−52.6%
|
Far Cry 5 | 71
+238%
|
21
−238%
|
Forza Horizon 4 | 82
+332%
|
19
−332%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+281%
|
16−18
−281%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 49
+96%
|
24−27
−96%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 44
+175%
|
16
−175%
|
Valorant | 150−160
+108%
|
70−75
−108%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 80
+196%
|
27
−196%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+267%
|
6−7
−267%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
+191%
|
50−55
−191%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+322%
|
9−10
−322%
|
Metro Exodus | 28
+367%
|
6−7
−367%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+346%
|
35−40
−346%
|
Valorant | 190−200
+147%
|
75−80
−147%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
+369%
|
12−14
−369%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+320%
|
5−6
−320%
|
Far Cry 5 | 45−50
+250%
|
14−16
−250%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
+244%
|
16−18
−244%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+255%
|
10−12
−255%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+218%
|
10−12
−218%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
+264%
|
14−16
−264%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+183%
|
6−7
−183%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+900%
|
1−2
−900%
|
Grand Theft Auto V | 57
+217%
|
18−20
−217%
|
Metro Exodus | 18
+800%
|
2−3
−800%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
+440%
|
5−6
−440%
|
Valorant | 120−130
+254%
|
35−40
−254%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 37
+517%
|
6−7
−517%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
+900%
|
1−2
−900%
|
Cyberpunk 2077 | 9−10
+350%
|
2−3
−350%
|
Dota 2 | 70−75
+140%
|
30
−140%
|
Far Cry 5 | 26
+271%
|
7−8
−271%
|
Forza Horizon 4 | 41
+273%
|
10−12
−273%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
+400%
|
4−5
−400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+157%
|
7−8
−157%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+229%
|
7−8
−229%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ GeForce MX350 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 259% ในความละเอียด 1080p
- RX 580 เร็วกว่า 39% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 900%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 22.95 | 7.29 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 10 กุมภาพันธ์ 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 20 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 214.8% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX350 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 825%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX350 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX350 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก