GeForce MX150 เทียบกับ Radeon RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 กับ GeForce MX150 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 580 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX150 อย่างมหาศาลถึง 290% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 246 | 596 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.07 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.58 | 40.76 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GP108 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 937 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 1038 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 10 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 24.91 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 0.7972 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 144 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1253 MHz |
256.0 จีบี/s | 40.1 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
+269%
| 26
−269%
|
1440p | 44
+57.1%
| 28
−57.1%
|
4K | 38
+90%
| 20
−90%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.39 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.20 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 6.03 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
+250%
|
12−14
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+283%
|
12−14
−283%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 80
+433%
|
15
−433%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+250%
|
12−14
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+411%
|
9
−411%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+267%
|
27
−267%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+408%
|
12−14
−408%
|
Metro Exodus | 83
+361%
|
18
−361%
|
Red Dead Redemption 2 | 50−55
+88.9%
|
27
−88.9%
|
Valorant | 90−95
+288%
|
24
−288%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 117
+457%
|
21
−457%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+250%
|
12−14
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+1433%
|
3
−1433%
|
Dota 2 | 51
+27.5%
|
40
−27.5%
|
Far Cry 5 | 70−75
+73.8%
|
42
−73.8%
|
Fortnite | 110−120
+307%
|
29
−307%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+371%
|
21
−371%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+408%
|
12−14
−408%
|
Grand Theft Auto V | 77
+196%
|
26
−196%
|
Metro Exodus | 57
+418%
|
11
−418%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
+261%
|
56
−261%
|
Red Dead Redemption 2 | 50−55
+200%
|
16−18
−200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
+236%
|
22
−236%
|
Valorant | 90−95
+447%
|
17
−447%
|
World of Tanks | 240−250
+186%
|
87
−186%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
+386%
|
14
−386%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
+250%
|
12−14
−250%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
+283%
|
12−14
−283%
|
Dota 2 | 80−85
+29%
|
62
−29%
|
Far Cry 5 | 70−75
+181%
|
26
−181%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
+519%
|
16
−519%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
+408%
|
12−14
−408%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
+268%
|
19
−268%
|
Valorant | 90−95
+389%
|
18−20
−389%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 35−40
+533%
|
6−7
−533%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
+533%
|
6−7
−533%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+305%
|
43
−305%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
+320%
|
5−6
−320%
|
World of Tanks | 150−160
+180%
|
55
−180%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
+370%
|
10−11
−370%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+280%
|
5−6
−280%
|
Far Cry 5 | 65−70
+442%
|
12−14
−442%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+455%
|
10−12
−455%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+363%
|
8−9
−363%
|
Metro Exodus | 53
+657%
|
7−8
−657%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+267%
|
9−10
−267%
|
Valorant | 60−65
+281%
|
16−18
−281%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
+300%
|
5−6
−300%
|
Dota 2 | 57
+235%
|
16−18
−235%
|
Grand Theft Auto V | 57
+235%
|
16−18
−235%
|
Metro Exodus | 18
+1700%
|
1−2
−1700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 73
+248%
|
21
−248%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
+275%
|
4−5
−275%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
+235%
|
16−18
−235%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 28
+460%
|
5−6
−460%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
+300%
|
5−6
−300%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Dota 2 | 35−40
+62.5%
|
24
−62.5%
|
Far Cry 5 | 30−33
+329%
|
7−8
−329%
|
Fortnite | 31
+520%
|
5−6
−520%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+483%
|
6−7
−483%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+533%
|
3−4
−533%
|
Valorant | 27−30
+480%
|
5−6
−480%
|
4K
High Preset
World of Tanks | 30
+0%
|
30
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ GeForce MX150 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เร็วกว่า 269% ในความละเอียด 1080p
- RX 580 เร็วกว่า 57% ในความละเอียด 1440p
- RX 580 เร็วกว่า 90% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 580 เร็วกว่า 1700%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 580 เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.02 | 5.91 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 4 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 10 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 289.5% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX150 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1750%
Radeon RX 580 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX150 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX150 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ