GeForce RTX 4070 SUPER เทียบกับ Radeon RX 5500 XT
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500 XT และ GeForce RTX 4070 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5500 XT อย่างมหาศาลถึง 230% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 244 | 11 |
จัดอันดับตามความนิยม | 88 | 18 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.90 | 67.50 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.55 | 24.45 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 12 ธันวาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 5500 XT อยู่ 44%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 7168 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1607 MHz | 1980 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1845 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 130 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 162.4 | 554.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.196 TFLOPS | 35.48 TFLOPS |
ROPs | 32 | 80 |
TMUs | 88 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 224 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 180 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 14000 MHz | 1313 MHz |
224.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | - | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 79
−180%
| 221
+180%
|
1440p | 44
−211%
| 137
+211%
|
4K | 25
−224%
| 81
+224%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.14
+26.7%
| 2.71
−26.7%
|
1440p | 3.84
+13.8%
| 4.37
−13.8%
|
4K | 6.76
+9.4%
| 7.40
−9.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 98
−123%
|
210−220
+123%
|
Counter-Strike 2 | 66
−182%
|
186
+182%
|
Cyberpunk 2077 | 78
−151%
|
196
+151%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 75
−192%
|
210−220
+192%
|
Battlefield 5 | 74
−151%
|
180−190
+151%
|
Counter-Strike 2 | 50
−264%
|
182
+264%
|
Cyberpunk 2077 | 61
−202%
|
184
+202%
|
Far Cry 5 | 105
−93.3%
|
203
+93.3%
|
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
Forza Horizon 4 | 78
−276%
|
290−300
+276%
|
Forza Horizon 5 | 92
−125%
|
200−210
+125%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
Valorant | 150−160
−173%
|
400−450
+173%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 43
−409%
|
210−220
+409%
|
Battlefield 5 | 71
−162%
|
180−190
+162%
|
Counter-Strike 2 | 41
−288%
|
159
+288%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 240−250
−12.1%
|
270−280
+12.1%
|
Cyberpunk 2077 | 45
−253%
|
159
+253%
|
Dota 2 | 149
−202%
|
450−500
+202%
|
Far Cry 5 | 96
−108%
|
200
+108%
|
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
Forza Horizon 4 | 66
−344%
|
290−300
+344%
|
Forza Horizon 5 | 61
−239%
|
200−210
+239%
|
Grand Theft Auto V | 94
−84%
|
173
+84%
|
Metro Exodus | 52
−256%
|
185
+256%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 95
−334%
|
412
+334%
|
Valorant | 150−160
−173%
|
400−450
+173%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−174%
|
180−190
+174%
|
Counter-Strike 2 | 35
−297%
|
139
+297%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−260%
|
144
+260%
|
Dota 2 | 143
−215%
|
450−500
+215%
|
Far Cry 5 | 89
−113%
|
190
+113%
|
Forza Horizon 4 | 56
−423%
|
290−300
+423%
|
Forza Horizon 5 | 62
−223%
|
200−210
+223%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−106%
|
170−180
+106%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 58
−247%
|
201
+247%
|
Valorant | 114
−275%
|
400−450
+275%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 110−120
−170%
|
300−350
+170%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−282%
|
80−85
+282%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 150−160
−227%
|
500−550
+227%
|
Grand Theft Auto V | 44
−236%
|
148
+236%
|
Metro Exodus | 31
−281%
|
118
+281%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Valorant | 190−200
−147%
|
450−500
+147%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55
−249%
|
190−200
+249%
|
Cyberpunk 2077 | 20
−360%
|
92
+360%
|
Far Cry 5 | 60
−205%
|
183
+205%
|
Forza Horizon 4 | 41
−532%
|
250−260
+532%
|
Forza Horizon 5 | 39
−208%
|
120−130
+208%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
−316%
|
154
+316%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−190%
|
150−160
+190%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−294%
|
70−75
+294%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
−427%
|
55−60
+427%
|
Grand Theft Auto V | 42
−295%
|
166
+295%
|
Metro Exodus | 19
−289%
|
74
+289%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 31
−329%
|
133
+329%
|
Valorant | 120−130
−159%
|
300−350
+159%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35
−289%
|
130−140
+289%
|
Counter-Strike 2 | 4
−375%
|
19
+375%
|
Cyberpunk 2077 | 8
−450%
|
44
+450%
|
Dota 2 | 78
−221%
|
250−260
+221%
|
Far Cry 5 | 30
−243%
|
103
+243%
|
Forza Horizon 4 | 21
−938%
|
210−220
+938%
|
Forza Horizon 5 | 21
−210%
|
65−70
+210%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 21−24
−317%
|
95−100
+317%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−229%
|
75−80
+229%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500 XT และ RTX 4070 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 180% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 211% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 224% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Forza Horizon 4 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 SUPER เร็วกว่า 938%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4070 SUPER เหนือกว่า RX 5500 XT ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.41 | 77.16 |
ความใหม่ล่าสุด | 12 ธันวาคม 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 130 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RX 5500 XT มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 69.2%
ในทางกลับกัน RTX 4070 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 229.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
GeForce RTX 4070 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5500 XT ในการทดสอบประสิทธิภาพ