GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เทียบกับ Radeon RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 กับ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1650 Ti Max-Q อย่างมาก 25% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 335 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.97 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.04 | 23.10 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | TU117 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 1024 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 1035 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 1200 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 4,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 50 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 76.80 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 2.458 TFLOPS |
ROPs | 32 | 32 |
TMUs | 128 | 64 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 1250 MHz |
211.2 จีบี/s | 160.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.140 |
CUDA | - | 7.5 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+19%
| 58
−19%
|
1440p | 38
−7.9%
| 41
+7.9%
|
4K | 37
+42.3%
| 26
−42.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 4.71 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 4.84 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+29.3%
|
40−45
−29.3%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+27.6%
|
27−30
−27.6%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+27.3%
|
30−35
−27.3%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+29.3%
|
40−45
−29.3%
|
Battlefield 5 | 80−85
+20.9%
|
65−70
−20.9%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+27.6%
|
27−30
−27.6%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+27.3%
|
30−35
−27.3%
|
Far Cry 5 | 65−70
+19.6%
|
56
−19.6%
|
Fortnite | 100−110
+18.4%
|
85−90
−18.4%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+23.1%
|
65−70
−23.1%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+27.9%
|
40−45
−27.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+22.4%
|
55−60
−22.4%
|
Valorant | 140−150
+15.9%
|
120−130
−15.9%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+29.3%
|
40−45
−29.3%
|
Battlefield 5 | 80−85
+20.9%
|
65−70
−20.9%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+27.6%
|
27−30
−27.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+14.1%
|
200−210
−14.1%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+27.3%
|
30−35
−27.3%
|
Dota 2 | 110−120
−1.8%
|
112
+1.8%
|
Far Cry 5 | 65−70
+31.4%
|
51
−31.4%
|
Fortnite | 88
+1.1%
|
85−90
−1.1%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+23.1%
|
65−70
−23.1%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+27.9%
|
40−45
−27.9%
|
Grand Theft Auto V | 73
+9%
|
67
−9%
|
Metro Exodus | 40−45
+38.7%
|
31
−38.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
−16%
|
55−60
+16%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+29.6%
|
54
−29.6%
|
Valorant | 140−150
+15.9%
|
120−130
−15.9%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+20.9%
|
65−70
−20.9%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+27.6%
|
27−30
−27.6%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+27.3%
|
30−35
−27.3%
|
Dota 2 | 110−120
+3.8%
|
106
−3.8%
|
Far Cry 5 | 61
+27.1%
|
48
−27.1%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+23.1%
|
65−70
−23.1%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+27.9%
|
40−45
−27.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
−45%
|
55−60
+45%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+25%
|
32
−25%
|
Valorant | 140−150
+15.9%
|
120−130
−15.9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
−47.5%
|
85−90
+47.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+31.3%
|
16−18
−31.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+22.4%
|
110−120
−22.4%
|
Grand Theft Auto V | 33
+26.9%
|
26
−26.9%
|
Metro Exodus | 24−27
+30%
|
20−22
−30%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+10.9%
|
150−160
−10.9%
|
Valorant | 180−190
+15.1%
|
150−160
−15.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+27.3%
|
40−45
−27.3%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+35.7%
|
14−16
−35.7%
|
Far Cry 5 | 43
+30.3%
|
33
−30.3%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+28.2%
|
35−40
−28.2%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+25%
|
27−30
−25%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+28%
|
24−27
−28%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+31.4%
|
35−40
−31.4%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+23.1%
|
12−14
−23.1%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+28.6%
|
7−8
−28.6%
|
Grand Theft Auto V | 33
+32%
|
25
−32%
|
Metro Exodus | 16−18
+33.3%
|
12−14
−33.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+45%
|
20
−45%
|
Valorant | 110−120
+28.7%
|
85−90
−28.7%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+30.4%
|
21−24
−30.4%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+28.6%
|
7−8
−28.6%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
+33.3%
|
6−7
−33.3%
|
Dota 2 | 86
+65.4%
|
52
−65.4%
|
Far Cry 5 | 21−24
+37.5%
|
16
−37.5%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+25%
|
27−30
−25%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+28.6%
|
14−16
−28.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+33.3%
|
14−16
−33.3%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+6.3%
|
16−18
−6.3%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+0%
|
18−20
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ GTX 1650 Ti Max-Q แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 19% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 65%
- ในเกม Fortnite ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Epic Preset อุปกรณ์ GTX 1650 Ti Max-Q เร็วกว่า 47%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (93%)
- GTX 1650 Ti Max-Q เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 21.01 | 16.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 2 เมษายน 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 50 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 25.1%
ในทางกลับกัน GTX 1650 Ti Max-Q มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 140%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1650 Ti Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 470 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce GTX 1650 Ti Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก