Radeon RX 5700 เทียบกับ Pro 460
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro 460 กับ Radeon RX 5700 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 5700 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 460 อย่างมหาศาลถึง 316% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 505 | 141 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 48 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 40.99 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.42 | 14.09 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 1.0 (2019−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Baffin | Navi 10 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 30 ตุลาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 7 กรกฎาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $349 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 2304 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 850 MHz | 1465 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 907 MHz | 1725 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 10,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 35 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 58.05 | 248.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.858 TFLOPS | 7.949 TFLOPS |
ROPs | 16 | 64 |
TMUs | 64 | 144 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x8 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 268 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1270 MHz | 1750 MHz |
81.28 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 41
−178%
| 114
+178%
|
1440p | 16−18
−331%
| 69
+331%
|
4K | 10−12
−330%
| 43
+330%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.06 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.06 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.12 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−700%
|
344
+700%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−394%
|
84
+394%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−667%
|
115
+667%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 35−40
−211%
|
115
+211%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−614%
|
307
+614%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−341%
|
75
+341%
|
Far Cry 5 | 27−30
−478%
|
156
+478%
|
Fortnite | 50−55
−225%
|
166
+225%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−257%
|
132
+257%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−500%
|
150
+500%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−473%
|
86
+473%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
−403%
|
151
+403%
|
Valorant | 80−85
−250%
|
294
+250%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 35−40
−184%
|
105
+184%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−258%
|
154
+258%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−111%
|
270−280
+111%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−294%
|
67
+294%
|
Dota 2 | 60−65
−148%
|
156
+148%
|
Far Cry 5 | 27−30
−433%
|
144
+433%
|
Fortnite | 50−55
−175%
|
140
+175%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−251%
|
130
+251%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
−428%
|
132
+428%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−342%
|
137
+342%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−353%
|
68
+353%
|
Metro Exodus | 16−18
−412%
|
87
+412%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
−380%
|
144
+380%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 29
−407%
|
147
+407%
|
Valorant | 80−85
−246%
|
291
+246%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−162%
|
97
+162%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−241%
|
58
+241%
|
Dota 2 | 60−65
−132%
|
146
+132%
|
Far Cry 5 | 27−30
−400%
|
135
+400%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−219%
|
118
+219%
|
Hogwarts Legacy | 14−16
−233%
|
50
+233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
−363%
|
139
+363%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 17
−435%
|
91
+435%
|
Valorant | 80−85
−90.5%
|
160
+90.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 50−55
−131%
|
118
+131%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−480%
|
87
+480%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 60−65
−275%
|
240−250
+275%
|
Grand Theft Auto V | 10−12
−555%
|
72
+555%
|
Metro Exodus | 9−10
−467%
|
51
+467%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−289%
|
170−180
+289%
|
Valorant | 95−100
−192%
|
277
+192%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−326%
|
81
+326%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−414%
|
36
+414%
|
Far Cry 5 | 18−20
−417%
|
93
+417%
|
Forza Horizon 4 | 20−22
−415%
|
103
+415%
|
Hogwarts Legacy | 9−10
−322%
|
38
+322%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−433%
|
60−65
+433%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−353%
|
77
+353%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
−2400%
|
25
+2400%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−279%
|
72
+279%
|
Hogwarts Legacy | 3−4
−633%
|
21−24
+633%
|
Metro Exodus | 4−5
−675%
|
31
+675%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
−500%
|
48
+500%
|
Valorant | 40−45
−437%
|
231
+437%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−500%
|
54
+500%
|
Counter-Strike 2 | 1−2
−3900%
|
40−45
+3900%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−400%
|
15
+400%
|
Dota 2 | 30−35
−223%
|
100
+223%
|
Far Cry 5 | 9−10
−422%
|
47
+422%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−400%
|
70
+400%
|
Hogwarts Legacy | 3−4
−600%
|
21
+600%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 8−9
−638%
|
59
+638%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−388%
|
39
+388%
|
นี่คือวิธีที่ Pro 460 และ RX 5700 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 5700 เร็วกว่า 178% ในความละเอียด 1080p
- RX 5700 เร็วกว่า 331% ในความละเอียด 1440p
- RX 5700 เร็วกว่า 330% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 5700 เร็วกว่า 3900%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 5700 เหนือกว่า Pro 460 ในการทดสอบทั้ง 66 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 8.31 | 34.56 |
ความใหม่ล่าสุด | 30 ตุลาคม 2016 | 7 กรกฎาคม 2019 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 35 วัตต์ | 180 วัตต์ |
Pro 460 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 414.3%
ในทางกลับกัน RX 5700 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 315.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon RX 5700 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro 460 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro 460 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ Radeon RX 5700 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป