GeForce RTX 3060 Ti เทียบกับ Radeon HD 7770
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon HD 7770 และ GeForce RTX 3060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า HD 7770 อย่างมหาศาลถึง 841% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 611 | 53 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 25 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.44 | 68.08 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 4.85 | 18.27 |
สถาปัตยกรรม | GCN 1.0 (2011−2020) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Cape Verde | GA104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 15 กุมภาพันธ์ 2012 (เมื่อ 13 ปี ปีที่แล้ว) | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $159 | $399 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า HD 7770 อยู่ 4628%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 640 | 4864 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 1410 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1665 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,500 million | 17,400 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 40.00 | 253.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.28 TFLOPS | 16.2 TFLOPS |
ROPs | 16 | 80 |
TMUs | 40 | 152 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 152 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 38 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 210 mm | 242 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1125 MHz | 1750 MHz |
72 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 2x mini-DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
Eyefinity | + | - |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2 |
CUDA | - | 8.6 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 47
−751%
| 400−450
+751%
|
Full HD | 47
−206%
| 144
+206%
|
1440p | 8−9
−900%
| 80
+900%
|
4K | 5−6
−900%
| 50
+900%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.38
−22.1%
| 2.77
+22.1%
|
1440p | 19.88
−298%
| 4.99
+298%
|
4K | 31.80
−298%
| 7.98
+298%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 12−14
−1715%
|
236
+1715%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1242%
|
161
+1242%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−1100%
|
132
+1100%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 12−14
−1285%
|
180
+1285%
|
Battlefield 5 | 21−24
−559%
|
145
+559%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−933%
|
124
+933%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−927%
|
113
+927%
|
Far Cry 5 | 14−16
−860%
|
144
+860%
|
Fortnite | 30−35
−563%
|
210−220
+563%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−733%
|
200
+733%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−1367%
|
176
+1367%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−770%
|
170−180
+770%
|
Valorant | 60−65
−330%
|
270−280
+330%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−692%
|
103
+692%
|
Battlefield 5 | 21−24
−464%
|
124
+464%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−783%
|
106
+783%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 128
−117%
|
270−280
+117%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−764%
|
95
+764%
|
Dota 2 | 40−45
−230%
|
145
+230%
|
Far Cry 5 | 14−16
−813%
|
137
+813%
|
Fortnite | 30−35
−563%
|
210−220
+563%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−717%
|
196
+717%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−1217%
|
158
+1217%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−683%
|
141
+683%
|
Metro Exodus | 10−11
−1000%
|
110
+1000%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−770%
|
170−180
+770%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−1221%
|
185
+1221%
|
Valorant | 60−65
−330%
|
270−280
+330%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21−24
−418%
|
114
+418%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−708%
|
97
+708%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−664%
|
84
+664%
|
Dota 2 | 40−45
−207%
|
135
+207%
|
Far Cry 5 | 14−16
−760%
|
129
+760%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−621%
|
173
+621%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−817%
|
110−120
+817%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
−770%
|
170−180
+770%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−557%
|
92
+557%
|
Valorant | 60−65
−335%
|
274
+335%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−563%
|
210−220
+563%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 7−8
−457%
|
35−40
+457%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 40−45
−737%
|
300−350
+737%
|
Grand Theft Auto V | 6−7
−1517%
|
97
+1517%
|
Metro Exodus | 4−5
−1550%
|
66
+1550%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−400%
|
170−180
+400%
|
Valorant | 55−60
−412%
|
300−350
+412%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 6−7
−1533%
|
98
+1533%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1250%
|
54
+1250%
|
Far Cry 5 | 10−11
−950%
|
105
+950%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−1150%
|
150
+1150%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
−838%
|
75−80
+838%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
−1163%
|
100−110
+1163%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 10−11
−1250%
|
130−140
+1250%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 4−5
−925%
|
40−45
+925%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 24−27 |
Grand Theft Auto V | 16−18
−529%
|
107
+529%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 2−3
−3750%
|
77
+3750%
|
Valorant | 27−30
−970%
|
280−290
+970%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 3−4
−2067%
|
65
+2067%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 15 |
Cyberpunk 2077 | 2−3
−1150%
|
25
+1150%
|
Dota 2 | 18−20
−506%
|
109
+506%
|
Far Cry 5 | 5−6
−1200%
|
65
+1200%
|
Forza Horizon 4 | 7−8
−1371%
|
103
+1371%
|
Forza Horizon 5 | 3−4
−800%
|
27−30
+800%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 5−6
−1480%
|
75−80
+1480%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 5−6
−1300%
|
70−75
+1300%
|
4K
High Preset
Metro Exodus | 43
+0%
|
43
+0%
|
นี่คือวิธีที่ HD 7770 และ RTX 3060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 751% ในความละเอียด 900p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 206% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 900% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3060 Ti เร็วกว่า 900% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 3750%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 61การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 5.57 | 52.43 |
ความใหม่ล่าสุด | 15 กุมภาพันธ์ 2012 | 1 ธันวาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 200 วัตต์ |
HD 7770 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 150%
ในทางกลับกัน RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 841.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 8 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 250%
GeForce RTX 3060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon HD 7770 ในการทดสอบประสิทธิภาพ