Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เทียบกับ Graphics (Ryzen 7000)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Graphics (Ryzen 7000) และ Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีประสิทธิภาพดีกว่า Graphics (Ryzen 7000) อย่างมหาศาลถึง 103% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 685 | 503 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 33 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | ไม่มีข้อมูล | 40.94 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2 (2022−2023) | Vega (2017−2020) |
ชื่อรหัส GPU | Raphael | Vega |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 26 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 7 มกราคม 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 128 | 512 |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2200 MHz | 2100 MHz |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | ไม่มีข้อมูล | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
Resizable BAR | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_2 | 12_1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 19
−15.8%
| 22
+15.8%
|
1440p | 7−8
−129%
| 16
+129%
|
4K | 4−5
−150%
| 10
+150%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−294%
|
63
+294%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−125%
|
18
+125%
|
Hogwarts Legacy | 7−8
−157%
|
18
+157%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 16−18
−144%
|
39
+144%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−169%
|
43
+169%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−62.5%
|
13
+62.5%
|
Far Cry 5 | 10−12
−90.9%
|
21
+90.9%
|
Fortnite | 24−27
−95.8%
|
47
+95.8%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−94.7%
|
35−40
+94.7%
|
Forza Horizon 5 | 10−11
−230%
|
33
+230%
|
Hogwarts Legacy | 7−8
−100%
|
14
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−76.5%
|
30−33
+76.5%
|
Valorant | 55−60
−52.7%
|
80−85
+52.7%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 16−18
−106%
|
33
+106%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−18.8%
|
19
+18.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 70−75
+52.1%
|
48
−52.1%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−12.5%
|
9
+12.5%
|
Dota 2 | 41
−24.4%
|
51
+24.4%
|
Far Cry 5 | 10−12
−81.8%
|
20
+81.8%
|
Fortnite | 24−27
−29.2%
|
31
+29.2%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−94.7%
|
35−40
+94.7%
|
Forza Horizon 5 | 10−11
−180%
|
28
+180%
|
Grand Theft Auto V | 12−14
−46.2%
|
19
+46.2%
|
Hogwarts Legacy | 7−8
−42.9%
|
10
+42.9%
|
Metro Exodus | 8−9
−100%
|
16
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−76.5%
|
30−33
+76.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−75%
|
21
+75%
|
Valorant | 55−60
−52.7%
|
80−85
+52.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16−18
−87.5%
|
30
+87.5%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
−12.5%
|
9
+12.5%
|
Dota 2 | 37
−29.7%
|
48
+29.7%
|
Far Cry 5 | 10−12
−72.7%
|
19
+72.7%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−94.7%
|
35−40
+94.7%
|
Hogwarts Legacy | 7−8
−114%
|
14−16
+114%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 16−18
−76.5%
|
30−33
+76.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−16.7%
|
14
+16.7%
|
Valorant | 55−60
+48.6%
|
37
−48.6%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 24−27
+33.3%
|
18
−33.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 6−7
−133%
|
14−16
+133%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 30−35
+47.6%
|
21
−47.6%
|
Grand Theft Auto V | 4−5
−125%
|
9
+125%
|
Metro Exodus | 3−4
−233%
|
10
+233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
+45.5%
|
22
−45.5%
|
Valorant | 40−45
−116%
|
95−100
+116%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 1−2
−2000%
|
21
+2000%
|
Cyberpunk 2077 | 3−4
−66.7%
|
5
+66.7%
|
Far Cry 5 | 7−8
−129%
|
16
+129%
|
Forza Horizon 4 | 10−11
−100%
|
20−22
+100%
|
Hogwarts Legacy | 4−5
−125%
|
9−10
+125%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−117%
|
12−14
+117%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 8−9
−113%
|
16−18
+113%
|
4K
High Preset
Grand Theft Auto V | 16−18
+60%
|
10
−60%
|
Valorant | 21−24
−110%
|
40−45
+110%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 0−1 | 9−10 |
Cyberpunk 2077 | 1−2
−200%
|
3−4
+200%
|
Dota 2 | 12−14
−38.5%
|
18
+38.5%
|
Far Cry 5 | 4−5
−100%
|
8
+100%
|
Forza Horizon 4 | 5−6
−180%
|
14−16
+180%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 5−6
−60%
|
8−9
+60%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 4−5
−100%
|
8−9
+100%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
Hogwarts Legacy | 4−5
+0%
|
4−5
+0%
|
Metro Exodus | 6
+0%
|
6
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 8−9
+0%
|
8−9
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 1−2
+0%
|
1−2
+0%
|
Hogwarts Legacy | 4−5
+0%
|
4−5
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Graphics (Ryzen 7000) และ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 16% ในความละเอียด 1080p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 129% ในความละเอียด 1440p
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 150% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Graphics (Ryzen 7000) เร็วกว่า 60%
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เร็วกว่า 2000%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Graphics (Ryzen 7000) เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (9%)
- RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (82%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (9%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 3.81 | 7.75 |
ความใหม่ล่าสุด | 26 กันยายน 2022 | 7 มกราคม 2020 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 7 nm |
Graphics (Ryzen 7000) มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
ในทางกลับกัน RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 103.4%
Radeon RX Vega 8 (Ryzen 4000/5000) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Graphics (Ryzen 7000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ