Radeon 760M เทียบกับ GeForce RTX 4070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti กับ Radeon 760M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า 760M อย่างมหาศาลถึง 457% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 8 | 363 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 49.03 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.95 | 67.98 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | Hawx Point |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 6 ธันวาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7680 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2310 MHz | 800 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2599 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 25,390 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 626.4 | 83.17 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40.09 TFLOPS | 5.323 TFLOPS |
ROPs | 80 | 16 |
TMUs | 240 | 32 |
Tensor Cores | 240 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 60 | 8 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | System Shared |
504.2 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.9 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 225
+582%
| 33
−582%
|
1440p | 148
+517%
| 24
−517%
|
4K | 93
+481%
| 16−18
−481%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.55 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.40 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 8.59 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 316
+710%
|
39
−710%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+672%
|
25
−672%
|
Cyberpunk 2077 | 236
+687%
|
30
−687%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 253
+772%
|
29
−772%
|
Battlefield 5 | 190−200
+222%
|
60−65
−222%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+916%
|
19
−916%
|
Cyberpunk 2077 | 218
+808%
|
24
−808%
|
Far Cry 5 | 211
+455%
|
38
−455%
|
Fortnite | 300−350
+282%
|
75−80
−282%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+445%
|
55−60
−445%
|
Forza Horizon 5 | 244
+542%
|
35−40
−542%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+254%
|
50−55
−254%
|
Valorant | 450−500
+305%
|
110−120
−305%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 180
+959%
|
17
−959%
|
Battlefield 5 | 190−200
+222%
|
60−65
−222%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+972%
|
18
−972%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+47.1%
|
180−190
−47.1%
|
Cyberpunk 2077 | 185
+928%
|
18
−928%
|
Dota 2 | 259
+191%
|
85−90
−191%
|
Far Cry 5 | 203
+480%
|
35
−480%
|
Fortnite | 300−350
+282%
|
75−80
−282%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+445%
|
55−60
−445%
|
Forza Horizon 5 | 228
+500%
|
35−40
−500%
|
Grand Theft Auto V | 178
+424%
|
34
−424%
|
Metro Exodus | 197
+579%
|
27−30
−579%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+254%
|
50−55
−254%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 453
+1158%
|
36
−1158%
|
Valorant | 450−500
+305%
|
110−120
−305%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+222%
|
60−65
−222%
|
Counter-Strike 2 | 190−200
+672%
|
24−27
−672%
|
Cyberpunk 2077 | 167
+476%
|
27−30
−476%
|
Dota 2 | 243
+173%
|
85−90
−173%
|
Far Cry 5 | 189
+473%
|
33
−473%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
+445%
|
55−60
−445%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+254%
|
50−55
−254%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 222
+865%
|
23
−865%
|
Valorant | 450−500
+305%
|
110−120
−305%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+282%
|
75−80
−282%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 95−100
+513%
|
16−18
−513%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+401%
|
100−110
−401%
|
Grand Theft Auto V | 156
+609%
|
21−24
−609%
|
Metro Exodus | 131
+671%
|
16−18
−671%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+36.7%
|
120−130
−36.7%
|
Valorant | 450−500
+234%
|
140−150
−234%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+416%
|
35−40
−416%
|
Cyberpunk 2077 | 105
+775%
|
12−14
−775%
|
Far Cry 5 | 182
+507%
|
30−33
−507%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+729%
|
30−35
−729%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190−200
+805%
|
21−24
−805%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+403%
|
30−33
−403%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 75−80
+600%
|
10−12
−600%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+1017%
|
6−7
−1017%
|
Grand Theft Auto V | 172
+562%
|
24−27
−562%
|
Metro Exodus | 84
+740%
|
10−11
−740%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
+684%
|
18−20
−684%
|
Valorant | 300−350
+337%
|
75−80
−337%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+580%
|
20−22
−580%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+1017%
|
6−7
−1017%
|
Cyberpunk 2077 | 48
+860%
|
5−6
−860%
|
Dota 2 | 226
+352%
|
50−55
−352%
|
Far Cry 5 | 111
+640%
|
14−16
−640%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
+933%
|
24−27
−933%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+638%
|
12−14
−638%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+508%
|
12−14
−508%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
+0%
|
16−18
+0%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 10−12
+0%
|
10−12
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti และ Radeon 760M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 582% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 517% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 481% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 1158%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 81.56 | 14.63 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 6 ธันวาคม 2023 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 457.5%
ในทางกลับกัน Radeon 760M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 11 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1800%
GeForce RTX 4070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 760M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 4070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 760M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก