GeForce RTX 5080 เทียบกับ RTX 4070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti และ GeForce RTX 5080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4070 Ti อย่างปานกลาง 14% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 11 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 86 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 48.93 | 40.59 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.67 | 17.76 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5080 อยู่ 21%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7680 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2310 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2617 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 360 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 626.4 | 879.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40.09 TFLOPS | 56.28 TFLOPS |
ROPs | 80 | 112 |
TMUs | 240 | 336 |
Tensor Cores | 240 | 336 |
Ray Tracing Cores | 60 | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1875 MHz |
504.2 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 10.1 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 224
+10.3%
| 203
−10.3%
|
1440p | 140
−14.3%
| 160
+14.3%
|
4K | 87
−25.3%
| 109
+25.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.57
+38%
| 4.92
−38%
|
1440p | 5.71
+9.4%
| 6.24
−9.4%
|
4K | 9.18
−0.2%
| 9.17
+0.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 236
+4.4%
|
220−230
−4.4%
|
Hogwarts Legacy | 160
−6.9%
|
170−180
+6.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 218
−3.7%
|
220−230
+3.7%
|
Far Cry 5 | 211
−10.4%
|
230−240
+10.4%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Forza Horizon 5 | 244
+1.2%
|
240−250
−1.2%
|
Hogwarts Legacy | 147
−16.3%
|
170−180
+16.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
−29.4%
|
600−650
+29.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 185
−22.2%
|
220−230
+22.2%
|
Dota 2 | 259
−12%
|
290−300
+12%
|
Far Cry 5 | 203
−14.8%
|
230−240
+14.8%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Forza Horizon 5 | 228
−5.7%
|
240−250
+5.7%
|
Grand Theft Auto V | 178
+2.9%
|
170−180
−2.9%
|
Hogwarts Legacy | 126
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Metro Exodus | 197
+203%
|
65
−203%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 453
+14.7%
|
350−400
−14.7%
|
Valorant | 450−500
−29.4%
|
600−650
+29.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 167
−35.3%
|
220−230
+35.3%
|
Dota 2 | 243
−11.1%
|
270−280
+11.1%
|
Far Cry 5 | 189
−23.3%
|
230−240
+23.3%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Hogwarts Legacy | 118
−36.4%
|
161
+36.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 221
−27.6%
|
282
+27.6%
|
Valorant | 450−500
−29.4%
|
600−650
+29.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 240−250
−19.2%
|
290−300
+19.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 156
−7.1%
|
160−170
+7.1%
|
Metro Exodus | 131
−32.1%
|
173
+32.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+0%
|
190−200
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 105
−36.2%
|
140−150
+36.2%
|
Far Cry 5 | 182
−25.3%
|
220−230
+25.3%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
−9.3%
|
300−350
+9.3%
|
Hogwarts Legacy | 86
−47.7%
|
127
+47.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190−200
−19.8%
|
236
+19.8%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
+102%
|
55
−102%
|
Grand Theft Auto V | 172
−8.7%
|
180−190
+8.7%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−38.5%
|
90
+38.5%
|
Metro Exodus | 84
−47.6%
|
120−130
+47.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
−58.4%
|
236
+58.4%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−21.6%
|
130−140
+21.6%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−47.9%
|
70−75
+47.9%
|
Dota 2 | 226
−10.6%
|
250−260
+10.6%
|
Far Cry 5 | 111
−53.2%
|
170−180
+53.2%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
−24.5%
|
300−350
+24.5%
|
Hogwarts Legacy | 47
−55.3%
|
73
+55.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti และ RTX 5080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เร็วกว่า 10% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 25% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 203%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 58%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
- RTX 5080 เหนือกว่าใน 41การทดสอบ (65%)
- เสมอกันใน 16การทดสอบ (25%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 75.11 | 85.68 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 360 วัตต์ |
RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 26.3%
ในทางกลับกัน RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 14.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และ
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4070 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ