GeForce RTX 5090 เทียบกับ RTX 4070 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 4070 Ti และ GeForce RTX 5090 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5090 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4070 Ti อย่างมาก 27% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 11 | 2 |
จัดอันดับตามความนิยม | 86 | 9 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 48.93 | 11.29 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.67 | 12.38 |
สถาปัตยกรรม | Ada Lovelace (2022−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | AD104 | GB202 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | $1,999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5090 อยู่ 333%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 7680 | 21760 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2310 MHz | 2017 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2610 MHz | 2407 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 35,800 million | 92,200 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 Watt | 575 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 626.4 | 1,637 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40.09 TFLOPS | 104.8 TFLOPS |
ROPs | 80 | 176 |
TMUs | 240 | 680 |
Tensor Cores | 240 | 680 |
Ray Tracing Cores | 60 | 170 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 32 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 512 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 1750 MHz |
504.2 จีบี/s | 1.79 ทีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | 8.9 | 12.0 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 224
−7.6%
| 241
+7.6%
|
1440p | 140
−47.9%
| 207
+47.9%
|
4K | 87
−82.8%
| 159
+82.8%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.57
+133%
| 8.29
−133%
|
1440p | 5.71
+69.2%
| 9.66
−69.2%
|
4K | 9.18
+36.9%
| 12.57
−36.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 236
−5.9%
|
250−260
+5.9%
|
Hogwarts Legacy | 160
−6.9%
|
170−180
+6.9%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 218
−14.7%
|
250−260
+14.7%
|
Far Cry 5 | 211
−21.3%
|
250−260
+21.3%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Forza Horizon 5 | 244
−8.2%
|
260−270
+8.2%
|
Hogwarts Legacy | 147
−16.3%
|
170−180
+16.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
−45%
|
650−700
+45%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 185
−35.1%
|
250−260
+35.1%
|
Dota 2 | 259
−15.8%
|
300−310
+15.8%
|
Far Cry 5 | 203
−26.1%
|
250−260
+26.1%
|
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Forza Horizon 5 | 228
−15.8%
|
260−270
+15.8%
|
Grand Theft Auto V | 178
+2.9%
|
170−180
−2.9%
|
Hogwarts Legacy | 126
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Metro Exodus | 197
+186%
|
69
−186%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 453
+2.3%
|
400−450
−2.3%
|
Valorant | 450−500
−45%
|
650−700
+45%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
−2.6%
|
190−200
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 167
−49.7%
|
250−260
+49.7%
|
Dota 2 | 243
−23.5%
|
300−310
+23.5%
|
Far Cry 5 | 189
−63.5%
|
309
+63.5%
|
Forza Horizon 4 | 300−350
−9.6%
|
300−350
+9.6%
|
Hogwarts Legacy | 118
−40.7%
|
166
+40.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 221
−62%
|
358
+62%
|
Valorant | 450−500
−45%
|
650−700
+45%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 240−250
−27.3%
|
300−350
+27.3%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+0%
|
500−550
+0%
|
Grand Theft Auto V | 156
−8.3%
|
160−170
+8.3%
|
Metro Exodus | 131
−54.2%
|
202
+54.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+0%
|
450−500
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+0%
|
190−200
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 105
−51.4%
|
150−160
+51.4%
|
Far Cry 5 | 182
−67%
|
304
+67%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
−9.3%
|
300−350
+9.3%
|
Hogwarts Legacy | 86
−86%
|
160
+86%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 190−200
−66%
|
327
+66%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 110−120
+27.6%
|
87
−27.6%
|
Grand Theft Auto V | 172
−8.7%
|
180−190
+8.7%
|
Hogwarts Legacy | 65−70
−109%
|
136
+109%
|
Metro Exodus | 84
−98.8%
|
167
+98.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 149
−159%
|
386
+159%
|
Valorant | 300−350
+0%
|
300−350
+0%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+0%
|
130−140
+0%
|
Counter-Strike 2 | 110−120
−45%
|
160−170
+45%
|
Cyberpunk 2077 | 48
−68.8%
|
80−85
+68.8%
|
Dota 2 | 226
−23.9%
|
280−290
+23.9%
|
Far Cry 5 | 111
−108%
|
231
+108%
|
Forza Horizon 4 | 240−250
−24.5%
|
300−350
+24.5%
|
Hogwarts Legacy | 47
−117%
|
102
+117%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 4070 Ti และ RTX 5090 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5090 เร็วกว่า 8% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5090 เร็วกว่า 48% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5090 เร็วกว่า 83% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti เร็วกว่า 186%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5090 เร็วกว่า 159%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- RTX 5090 เหนือกว่าใน 43การทดสอบ (68%)
- เสมอกันใน 16การทดสอบ (25%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 75.11 | 95.35 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 มกราคม 2023 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 32 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 4 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 285 วัตต์ | 575 วัตต์ |
RTX 4070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 101.8%
ในทางกลับกัน RTX 5090 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 26.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และ
GeForce RTX 5090 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4070 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ