Radeon RX 7600 เทียบกับ GeForce RTX 3090 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3090 Ti และ Radeon RX 7600 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3090 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600 อย่างน่าประทับใจ 78% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 12 | 87 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 90 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 8.30 | 93.56 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.74 | 17.99 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 27 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 24 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,999 | $269 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 7600 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3090 Ti อยู่ 1027%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10752 | 2048 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1560 MHz | 1720 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1860 MHz | 2655 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 Watt | 165 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 625.0 | 339.8 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 40 TFLOPS | 21.75 TFLOPS |
ROPs | 112 | 64 |
TMUs | 336 | 128 |
Tensor Cores | 336 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 84 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 336 mm | 204 mm |
ความกว้าง | 3-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 16-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1313 MHz | 2250 MHz |
1,008 จีบี/s | 288.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 210
+44.8%
| 145
−44.8%
|
1440p | 144
+115%
| 67
−115%
|
4K | 102
+191%
| 35
−191%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 9.52
−413%
| 1.86
+413%
|
1440p | 13.88
−246%
| 4.01
+246%
|
4K | 19.60
−155%
| 7.69
+155%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 210−220
+1.9%
|
213
−1.9%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+34.8%
|
135
−34.8%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+48%
|
148
−48%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 210−220
+37.3%
|
158
−37.3%
|
Battlefield 5 | 180−190
+36.3%
|
130−140
−36.3%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+68.5%
|
108
−68.5%
|
Cyberpunk 2077 | 201
+71.8%
|
117
−71.8%
|
Far Cry 5 | 180−190
+1.1%
|
183
−1.1%
|
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+87%
|
150−160
−87%
|
Forza Horizon 5 | 200
+69.5%
|
110−120
−69.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
Valorant | 400−450
+81.4%
|
230−240
−81.4%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 210−220
+133%
|
93
−133%
|
Battlefield 5 | 180−190
+36.3%
|
130−140
−36.3%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+102%
|
90
−102%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 173
+73%
|
100
−73%
|
Dota 2 | 217
+80.8%
|
120−130
−80.8%
|
Far Cry 5 | 180−190
+6.3%
|
174
−6.3%
|
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+87%
|
150−160
−87%
|
Forza Horizon 5 | 188
+59.3%
|
110−120
−59.3%
|
Grand Theft Auto V | 170
+13.3%
|
150
−13.3%
|
Metro Exodus | 178
+57.5%
|
113
−57.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 394
+87.6%
|
210
−87.6%
|
Valorant | 400−450
+81.4%
|
230−240
−81.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+36.3%
|
130−140
−36.3%
|
Counter-Strike 2 | 180−190
+125%
|
81
−125%
|
Cyberpunk 2077 | 152
+68.9%
|
90
−68.9%
|
Dota 2 | 195
+95%
|
100−105
−95%
|
Far Cry 5 | 180−190
+13.5%
|
163
−13.5%
|
Forza Horizon 4 | 280−290
+87%
|
150−160
−87%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+13.5%
|
150−160
−13.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 193
+56.9%
|
123
−56.9%
|
Valorant | 400−450
+81.4%
|
230−240
−81.4%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+75.6%
|
170−180
−75.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 80−85
+153%
|
30−35
−153%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+87.6%
|
270−280
−87.6%
|
Grand Theft Auto V | 151
+96.1%
|
77
−96.1%
|
Metro Exodus | 125
+92.3%
|
65
−92.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+85.8%
|
260−270
−85.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 180−190
+85.1%
|
100−110
−85.1%
|
Cyberpunk 2077 | 104
+85.7%
|
56
−85.7%
|
Far Cry 5 | 160−170
+47%
|
115
−47%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+120%
|
110−120
−120%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 170−180
+107%
|
86
−107%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+42.5%
|
100−110
−42.5%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 65−70
+109%
|
30−35
−109%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+180%
|
20−22
−180%
|
Grand Theft Auto V | 181
+121%
|
82
−121%
|
Metro Exodus | 84
+121%
|
38
−121%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 173
+193%
|
59
−193%
|
Valorant | 300−350
+36.6%
|
240−250
−36.6%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+113%
|
60−65
−113%
|
Counter-Strike 2 | 55−60
+409%
|
11
−409%
|
Cyberpunk 2077 | 53
+121%
|
24
−121%
|
Dota 2 | 184
+84%
|
100−105
−84%
|
Far Cry 5 | 110−120
+107%
|
57
−107%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+174%
|
75−80
−174%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+74.5%
|
55−60
−74.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+49.1%
|
50−55
−49.1%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3090 Ti และ RX 7600 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 45% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 115% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3090 Ti เร็วกว่า 191% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3090 Ti เร็วกว่า 409%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3090 Ti เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 76.84 | 43.17 |
ความใหม่ล่าสุด | 27 มกราคม 2022 | 24 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 450 วัตต์ | 165 วัตต์ |
RTX 3090 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 78% และ
ในทางกลับกัน RX 7600 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 172.7%
GeForce RTX 3090 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600 ในการทดสอบประสิทธิภาพ