Radeon RX 6800 XT เทียบกับ GeForce RTX 3080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 Ti และ Radeon RX 6800 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 6800 XT เล็กน้อย 8% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 22 | 31 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.74 | 50.66 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.82 | 14.90 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 28 ตุลาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $649 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6800 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 Ti อยู่ 123%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1365 MHz | 1825 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2250 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 532.8 | 648.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 34.1 TFLOPS | 20.74 TFLOPS |
ROPs | 112 | 128 |
TMUs | 320 | 288 |
Tensor Cores | 320 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 80 | 72 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2000 MHz |
912.4 จีบี/s | 512.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI, 2x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.2 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 214
+3.4%
| 207
−3.4%
|
1440p | 145
−3.4%
| 150
+3.4%
|
4K | 97
−3.1%
| 100
+3.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.60
−78.7%
| 3.14
+78.7%
|
1440p | 8.27
−91.1%
| 4.33
+91.1%
|
4K | 12.36
−90.5%
| 6.49
+90.5%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 200−210
+7.5%
|
180−190
−7.5%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+8.5%
|
150−160
−8.5%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+47%
|
140−150
−47%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 200−210
+7.5%
|
180−190
−7.5%
|
Battlefield 5 | 170−180
−9.8%
|
191
+9.8%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+8.5%
|
150−160
−8.5%
|
Cyberpunk 2077 | 184
+23.5%
|
140−150
−23.5%
|
Far Cry 5 | 208
+45.5%
|
143
−45.5%
|
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+9.8%
|
230−240
−9.8%
|
Forza Horizon 5 | 200
+13.6%
|
170−180
−13.6%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 350−400
+10.2%
|
300−350
−10.2%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 200−210
+7.5%
|
180−190
−7.5%
|
Battlefield 5 | 170−180
−5.2%
|
183
+5.2%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+8.5%
|
150−160
−8.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 160
+7.4%
|
140−150
−7.4%
|
Dota 2 | 234
+41%
|
166
−41%
|
Far Cry 5 | 198
+42.4%
|
139
−42.4%
|
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+9.8%
|
230−240
−9.8%
|
Forza Horizon 5 | 188
+6.8%
|
170−180
−6.8%
|
Grand Theft Auto V | 174
+16%
|
150
−16%
|
Metro Exodus | 172
+13.2%
|
152
−13.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 372
+26.5%
|
294
−26.5%
|
Valorant | 350−400
+10.2%
|
300−350
−10.2%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 196
+12%
|
175
−12%
|
Counter-Strike 2 | 160−170
+8.5%
|
150−160
−8.5%
|
Cyberpunk 2077 | 146
−2.1%
|
140−150
+2.1%
|
Dota 2 | 217
+49.7%
|
145
−49.7%
|
Far Cry 5 | 186
+43.1%
|
130
−43.1%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+9.8%
|
230−240
−9.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
+13.1%
|
160
−13.1%
|
Valorant | 388
+9%
|
356
−9%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+7.1%
|
280−290
−7.1%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
+18.5%
|
50−55
−18.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+12.4%
|
400−450
−12.4%
|
Grand Theft Auto V | 153
+27.5%
|
120
−27.5%
|
Metro Exodus | 114
+20%
|
95
−20%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+14.9%
|
350−400
−14.9%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 192
+24.7%
|
154
−24.7%
|
Cyberpunk 2077 | 99
+19.3%
|
80−85
−19.3%
|
Far Cry 5 | 176
+34.4%
|
131
−34.4%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+11.6%
|
190−200
−11.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+12.5%
|
130−140
−12.5%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 60−65
+11.1%
|
50−55
−11.1%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+18.4%
|
35−40
−18.4%
|
Grand Theft Auto V | 182
+35.8%
|
134
−35.8%
|
Metro Exodus | 76
+35.7%
|
56
−35.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
+38.2%
|
110
−38.2%
|
Valorant | 300−350
+1.8%
|
300−350
−1.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 136
+32%
|
103
−32%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+18.4%
|
35−40
−18.4%
|
Cyberpunk 2077 | 50
+25%
|
40−45
−25%
|
Dota 2 | 211
+73%
|
122
−73%
|
Far Cry 5 | 109
+14.7%
|
95
−14.7%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
+16.9%
|
140−150
−16.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 Ti และ RX 6800 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 1080p
- RX 6800 XT เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 1440p
- RX 6800 XT เร็วกว่า 3% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 73%
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RX 6800 XT เร็วกว่า 10%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (83%)
- RX 6800 XT เหนือกว่าใน 3การทดสอบ (5%)
- เสมอกันใน 8การทดสอบ (13%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 69.38 | 64.14 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 28 ตุลาคม 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 300 วัตต์ |
RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 8.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือน
ในทางกลับกัน RX 6800 XT มีข้อได้เปรียบ และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 16.7%
ด้วยความแตกต่างของประสิทธิภาพที่น้อยมาก จึงไม่สามารถตัดสินผู้ชนะระหว่าง GeForce RTX 3080 Ti และ Radeon RX 6800 XT ได้อย่างชัดเจน