GeForce RTX 4060 เทียบกับ RTX 3080 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 Ti และ GeForce RTX 4060 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 4060 อย่างมหาศาล 37% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 26 | 63 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 2 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.73 | 100.00 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.69 | 30.48 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | AD107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 31 พฤษภาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 18 พฤษภาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $1,199 | $299 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4060 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3080 Ti อยู่ 340%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 10240 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1365 MHz | 1830 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2460 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 18,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 115 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 532.8 | 236.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 34.1 TFLOPS | 15.11 TFLOPS |
ROPs | 112 | 48 |
TMUs | 320 | 96 |
Tensor Cores | 320 | 96 |
Ray Tracing Cores | 80 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 285 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 2125 MHz |
912.4 จีบี/s | 272.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 215
+60.4%
| 134
−60.4%
|
1440p | 144
+122%
| 65
−122%
|
4K | 96
+153%
| 38
−153%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.58
−150%
| 2.23
+150%
|
1440p | 8.33
−81%
| 4.60
+81%
|
4K | 12.49
−58.7%
| 7.87
+58.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+21.7%
|
250−260
−21.7%
|
Cyberpunk 2077 | 219
+57.6%
|
139
−57.6%
|
Hogwarts Legacy | 140−150
+0%
|
148
+0%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 170−180
+17.6%
|
140−150
−17.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+21.7%
|
250−260
−21.7%
|
Cyberpunk 2077 | 184
+72%
|
107
−72%
|
Far Cry 5 | 208
+12.4%
|
185
−12.4%
|
Fortnite | 300−350
+48%
|
200−210
−48%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+40.7%
|
180−190
−40.7%
|
Forza Horizon 5 | 200
−19%
|
238
+19%
|
Hogwarts Legacy | 140−150
+32.1%
|
112
−32.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.9%
|
170−180
−2.9%
|
Valorant | 350−400
+39.5%
|
260−270
−39.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 170−180
+17.6%
|
140−150
−17.6%
|
Counter-Strike 2 | 300−350
+21.7%
|
250−260
−21.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 160
+77.8%
|
90
−77.8%
|
Dota 2 | 234
+37.6%
|
170−180
−37.6%
|
Far Cry 5 | 198
+17.2%
|
169
−17.2%
|
Fortnite | 300−350
+48%
|
200−210
−48%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+40.7%
|
180−190
−40.7%
|
Forza Horizon 5 | 188
−17.6%
|
221
+17.6%
|
Grand Theft Auto V | 174
+12.3%
|
155
−12.3%
|
Hogwarts Legacy | 140−150
+74.1%
|
85
−74.1%
|
Metro Exodus | 172
+60.7%
|
107
−60.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.9%
|
170−180
−2.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 372
+72.2%
|
216
−72.2%
|
Valorant | 350−400
+39.5%
|
260−270
−39.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 196
+32.4%
|
140−150
−32.4%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+82.5%
|
80
−82.5%
|
Dota 2 | 217
+44.7%
|
150−160
−44.7%
|
Far Cry 5 | 186
+17%
|
159
−17%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+40.7%
|
180−190
−40.7%
|
Hogwarts Legacy | 140−150
+121%
|
67
−121%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+2.9%
|
170−180
−2.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 181
+63.1%
|
111
−63.1%
|
Valorant | 388
+47.5%
|
260−270
−47.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+48%
|
200−210
−48%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 190−200
+51.1%
|
130−140
−51.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+50.8%
|
300−350
−50.8%
|
Grand Theft Auto V | 153
+70%
|
90
−70%
|
Metro Exodus | 114
+81%
|
63
−81%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+52%
|
290−300
−52%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 192
+64.1%
|
110−120
−64.1%
|
Cyberpunk 2077 | 99
+106%
|
48
−106%
|
Far Cry 5 | 176
+61.5%
|
109
−61.5%
|
Forza Horizon 4 | 220−230
+53.5%
|
140−150
−53.5%
|
Hogwarts Legacy | 85−90
+84.8%
|
46
−84.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+90%
|
80
−90%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+16.2%
|
130−140
−16.2%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 85−90
+50.8%
|
55−60
−50.8%
|
Grand Theft Auto V | 182
+104%
|
89
−104%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
+53.3%
|
30−33
−53.3%
|
Metro Exodus | 76
+100%
|
38
−100%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 152
+130%
|
66
−130%
|
Valorant | 300−350
+17.4%
|
280−290
−17.4%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 136
+74.4%
|
75−80
−74.4%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+50.8%
|
55−60
−50.8%
|
Cyberpunk 2077 | 50
+150%
|
20
−150%
|
Dota 2 | 211
+40.7%
|
150−160
−40.7%
|
Far Cry 5 | 109
+102%
|
54
−102%
|
Forza Horizon 4 | 170−180
+74.7%
|
95−100
−74.7%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
+84%
|
25
−84%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+28%
|
75−80
−28%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+17.9%
|
65−70
−17.9%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 Ti และ RTX 4060 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 60% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 122% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 Ti เร็วกว่า 153% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3080 Ti เร็วกว่า 150%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ RTX 4060 เร็วกว่า 19%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 Ti เหนือกว่าใน 58การทดสอบ (92%)
- RTX 4060 เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 60.38 | 44.17 |
ความใหม่ล่าสุด | 31 พฤษภาคม 2021 | 18 พฤษภาคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 115 วัตต์ |
RTX 3080 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 36.7% และ
ในทางกลับกัน RTX 4060 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 204.3%
GeForce RTX 3080 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 4060 ในการทดสอบประสิทธิภาพ