Arc A730M เทียบกับ GeForce RTX 3080 12 GB
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3080 12 GB กับ Arc A730M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3080 12 GB มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc A730M อย่างมหาศาลถึง 171% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 33 | 230 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 41.10 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.43 | 21.67 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Generation 12.7 (2022−2023) |
ชื่อรหัส GPU | GA102 | DG2-512 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 11 มกราคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) | 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $799 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 8960 | 3072 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1260 MHz | 1100 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1710 MHz | 2050 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 28,300 million | 21,700 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 478.8 | 393.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 30.64 TFLOPS | 12.6 TFLOPS |
ROPs | 96 | 96 |
TMUs | 280 | 192 |
Tensor Cores | 280 | 384 |
Ray Tracing Cores | 70 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | medium sized |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 285 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | ไม่มีข้อมูล |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6X | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 12 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1188 MHz | 1750 MHz |
912.4 จีบี/s | 336.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.6 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 8.6 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 183
+147%
| 74
−147%
|
1440p | 122
+171%
| 45
−171%
|
4K | 82
+273%
| 22
−273%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.37 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.55 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.74 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 300−350
+84.6%
|
169
−84.6%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+125%
|
71
−125%
|
Hogwarts Legacy | 150−160
+117%
|
70
−117%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 170−180
+73%
|
100−105
−73%
|
Counter-Strike 2 | 331
+114%
|
155
−114%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+150%
|
64
−150%
|
Far Cry 5 | 171
+83.9%
|
93
−83.9%
|
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+150%
|
100−110
−150%
|
Forza Horizon 5 | 171
+98.8%
|
86
−98.8%
|
Hogwarts Legacy | 178
+263%
|
49
−263%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+76%
|
100−105
−76%
|
Valorant | 350−400
+109%
|
170−180
−109%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 170−180
+73%
|
100−105
−73%
|
Counter-Strike 2 | 303
+209%
|
98
−209%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+6.1%
|
260−270
−6.1%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+196%
|
54
−196%
|
Dota 2 | 176
+95.6%
|
90
−95.6%
|
Far Cry 5 | 162
+88.4%
|
86
−88.4%
|
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+150%
|
100−110
−150%
|
Forza Horizon 5 | 159
+98.8%
|
80
−98.8%
|
Grand Theft Auto V | 155
+115%
|
72
−115%
|
Hogwarts Legacy | 141
+220%
|
44
−220%
|
Metro Exodus | 147
+242%
|
43
−242%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+76%
|
100−105
−76%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 321
+192%
|
110
−192%
|
Valorant | 350−400
+109%
|
170−180
−109%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 170−180
+73%
|
100−105
−73%
|
Cyberpunk 2077 | 160−170
+208%
|
52
−208%
|
Dota 2 | 161
+101%
|
80
−101%
|
Far Cry 5 | 151
+86.4%
|
81
−86.4%
|
Forza Horizon 4 | 250−260
+150%
|
100−110
−150%
|
Hogwarts Legacy | 115
+238%
|
34
−238%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+76%
|
100−105
−76%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 165
+267%
|
45
−267%
|
Valorant | 350−400
+253%
|
102
−253%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+144%
|
120−130
−144%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 202
+281%
|
53
−281%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 450−500
+175%
|
170−180
−175%
|
Grand Theft Auto V | 130
+177%
|
45−50
−177%
|
Metro Exodus | 98
+188%
|
30−35
−188%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 400−450
+107%
|
210−220
−107%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 160−170
+125%
|
70−75
−125%
|
Cyberpunk 2077 | 90−95
+194%
|
31
−194%
|
Far Cry 5 | 147
+153%
|
55−60
−153%
|
Forza Horizon 4 | 210−220
+222%
|
65−70
−222%
|
Hogwarts Legacy | 88
+203%
|
27−30
−203%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 150−160
+260%
|
40−45
−260%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+144%
|
60−65
−144%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 55
+686%
|
7
−686%
|
Grand Theft Auto V | 170
+400%
|
34
−400%
|
Hogwarts Legacy | 45−50
+194%
|
16−18
−194%
|
Metro Exodus | 65
+210%
|
21
−210%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 132
+247%
|
35−40
−247%
|
Valorant | 300−350
+120%
|
150−160
−120%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 110−120
+200%
|
35−40
−200%
|
Counter-Strike 2 | 85−90
+235%
|
24−27
−235%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+300%
|
10−12
−300%
|
Dota 2 | 156
+90.2%
|
80−85
−90.2%
|
Far Cry 5 | 102
+191%
|
35
−191%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
+273%
|
45−50
−273%
|
Hogwarts Legacy | 51
+219%
|
16−18
−219%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+243%
|
27−30
−243%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+182%
|
27−30
−182%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3080 12 GB และ Arc A730M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 147% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 171% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 273% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 12 GB เร็วกว่า 686%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 12 GB เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 64.06 | 23.62 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 350 วัตต์ | 80 วัตต์ |
RTX 3080 12 GB มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 171.2%
ในทางกลับกัน Arc A730M มีข้อได้เปรียบ มีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 33.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 337.5%
GeForce RTX 3080 12 GB เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc A730M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3080 12 GB เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Arc A730M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก