Radeon 760M เทียบกับ GeForce RTX 3070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 กับ Radeon 760M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า 760M อย่างมหาศาลถึง 291% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 45 | 363 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 57.76 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.14 | 67.98 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | Hawx Point |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 6 ธันวาคม 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 512 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 800 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2599 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 25,390 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 Watt | 15 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 317.4 | 83.17 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.31 TFLOPS | 5.323 TFLOPS |
ROPs | 96 | 16 |
TMUs | 184 | 32 |
Tensor Cores | 184 | ไม่มีข้อมูล |
Ray Tracing Cores | 46 | 8 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 242 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | System Shared |
448.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | - |
DLSS | + | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 150
+355%
| 33
−355%
|
1440p | 98
+308%
| 24
−308%
|
4K | 64
+300%
| 16−18
−300%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.33 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 5.09 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 7.80 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 263
+574%
|
39
−574%
|
Counter-Strike 2 | 149
+496%
|
25
−496%
|
Cyberpunk 2077 | 147
+390%
|
30
−390%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 196
+576%
|
29
−576%
|
Battlefield 5 | 149
+148%
|
60−65
−148%
|
Counter-Strike 2 | 135
+611%
|
19
−611%
|
Cyberpunk 2077 | 139
+479%
|
24
−479%
|
Far Cry 5 | 154
+305%
|
38
−305%
|
Fortnite | 230−240
+200%
|
75−80
−200%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+257%
|
55−60
−257%
|
Forza Horizon 5 | 159
+318%
|
35−40
−318%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+247%
|
50−55
−247%
|
Valorant | 290−300
+153%
|
110−120
−153%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 113
+565%
|
17
−565%
|
Battlefield 5 | 132
+120%
|
60−65
−120%
|
Counter-Strike 2 | 117
+550%
|
18
−550%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+46.3%
|
190−200
−46.3%
|
Cyberpunk 2077 | 126
+600%
|
18
−600%
|
Dota 2 | 133
+49.4%
|
85−90
−49.4%
|
Far Cry 5 | 148
+323%
|
35
−323%
|
Fortnite | 230−240
+200%
|
75−80
−200%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+257%
|
55−60
−257%
|
Forza Horizon 5 | 148
+289%
|
35−40
−289%
|
Grand Theft Auto V | 139
+309%
|
34
−309%
|
Metro Exodus | 120
+314%
|
27−30
−314%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+247%
|
50−55
−247%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 230
+539%
|
36
−539%
|
Valorant | 290−300
+153%
|
110−120
−153%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
+98.3%
|
60−65
−98.3%
|
Counter-Strike 2 | 105
+320%
|
24−27
−320%
|
Cyberpunk 2077 | 102
+252%
|
27−30
−252%
|
Dota 2 | 125
+40.4%
|
85−90
−40.4%
|
Far Cry 5 | 141
+327%
|
33
−327%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+257%
|
55−60
−257%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+247%
|
50−55
−247%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 121
+426%
|
23
−426%
|
Valorant | 237
+104%
|
110−120
−104%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
+200%
|
75−80
−200%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
+340%
|
10−11
−340%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+267%
|
100−110
−267%
|
Grand Theft Auto V | 98
+345%
|
21−24
−345%
|
Metro Exodus | 75
+341%
|
16−18
−341%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+37.8%
|
120−130
−37.8%
|
Valorant | 300−350
+128%
|
140−150
−128%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
+171%
|
35−40
−171%
|
Cyberpunk 2077 | 62
+417%
|
12−14
−417%
|
Far Cry 5 | 125
+317%
|
30−33
−317%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
+397%
|
30−35
−397%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+423%
|
21−24
−423%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 140−150
+397%
|
30−33
−397%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
+318%
|
10−12
−318%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+417%
|
6−7
−417%
|
Grand Theft Auto V | 117
+350%
|
24−27
−350%
|
Metro Exodus | 49
+390%
|
10−11
−390%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
+374%
|
18−20
−374%
|
Valorant | 300−350
+304%
|
75−80
−304%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70
+250%
|
20−22
−250%
|
Counter-Strike 2 | 16
+167%
|
6−7
−167%
|
Cyberpunk 2077 | 30
+500%
|
5−6
−500%
|
Dota 2 | 125
+150%
|
50−55
−150%
|
Far Cry 5 | 70
+367%
|
14−16
−367%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+400%
|
24−27
−400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
+615%
|
12−14
−615%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+508%
|
12−14
−508%
|
Full HD
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 35−40
+0%
|
35−40
+0%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
+0%
|
16−18
+0%
|
Forza Horizon 5 | 24−27
+0%
|
24−27
+0%
|
4K
Ultra Preset
Forza Horizon 5 | 12−14
+0%
|
12−14
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 และ Radeon 760M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เร็วกว่า 355% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 เร็วกว่า 308% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 เร็วกว่า 300% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 615%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 57.67 | 14.74 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 6 ธันวาคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 วัตต์ | 15 วัตต์ |
RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 291.2%
ในทางกลับกัน Radeon 760M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 1366.7%
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 760M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 3070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon 760M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก