Arc B580 เทียบกับ GeForce RTX 3070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 และ Arc B580 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Arc B580 อย่างน่าสนใจ 41% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 60 | 127 |
จัดอันดับตามความนิยม | 50 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 48.66 | 83.27 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.07 | 14.83 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Xe2 (2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | BMG-G21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 13 ธันวาคม 2024 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $249 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
Arc B580 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3070 อยู่ 71%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 2670 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2670 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 19,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 Watt | 190 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 317.4 | 427.2 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.31 TFLOPS | 13.67 TFLOPS |
ROPs | 96 | 80 |
TMUs | 184 | 160 |
Tensor Cores | 184 | 160 |
Ray Tracing Cores | 46 | 20 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 242 mm | 272 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2375 MHz |
448.0 จีบี/s | 456.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1a, 3x DisplayPort 2.1 |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.4 |
CUDA | 8.5 | - |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 148
+18.4%
| 125
−18.4%
|
1440p | 99
+45.6%
| 68
−45.6%
|
4K | 63
+50%
| 42
−50%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.37
−69.3%
| 1.99
+69.3%
|
1440p | 5.04
−37.6%
| 3.66
+37.6%
|
4K | 7.92
−33.6%
| 5.93
+33.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 270−280
+30.4%
|
210−220
−30.4%
|
Cyberpunk 2077 | 147
+31.3%
|
112
−31.3%
|
Dead Island 2 | 240−250
+0.4%
|
245
−0.4%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 149
+13.7%
|
130−140
−13.7%
|
Counter-Strike 2 | 330
+54.2%
|
210−220
−54.2%
|
Cyberpunk 2077 | 139
+43.3%
|
97
−43.3%
|
Dead Island 2 | 240−250
+13.4%
|
217
−13.4%
|
Far Cry 5 | 154
−12.3%
|
173
+12.3%
|
Fortnite | 230−240
+43.6%
|
160−170
−43.6%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+40.1%
|
140−150
−40.1%
|
Forza Horizon 5 | 159
−21.4%
|
193
+21.4%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+17.3%
|
150−160
−17.3%
|
Valorant | 290−300
+31.4%
|
220−230
−31.4%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 132
+0.8%
|
130−140
−0.8%
|
Counter-Strike 2 | 257
+20.1%
|
210−220
−20.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 126
+53.7%
|
82
−53.7%
|
Dead Island 2 | 240−250
+49.1%
|
165
−49.1%
|
Dota 2 | 133
+47.8%
|
90−95
−47.8%
|
Far Cry 5 | 148
−8.1%
|
160
+8.1%
|
Fortnite | 230−240
+43.6%
|
160−170
−43.6%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+40.1%
|
140−150
−40.1%
|
Forza Horizon 5 | 148
−17.6%
|
174
+17.6%
|
Grand Theft Auto V | 139
−0.7%
|
140
+0.7%
|
Metro Exodus | 120
+13.2%
|
106
−13.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+17.3%
|
150−160
−17.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 230
−2.6%
|
236
+2.6%
|
Valorant | 290−300
+31.4%
|
220−230
−31.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
−10.1%
|
130−140
+10.1%
|
Cyberpunk 2077 | 102
+32.5%
|
77
−32.5%
|
Dead Island 2 | 240−250
+107%
|
119
−107%
|
Dota 2 | 125
+47.1%
|
85−90
−47.1%
|
Far Cry 5 | 141
−5.7%
|
149
+5.7%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
+40.1%
|
140−150
−40.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+17.3%
|
150−160
−17.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 121
+42.4%
|
85
−42.4%
|
Valorant | 237
+6.3%
|
220−230
−6.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
+43.6%
|
160−170
−43.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 167
+72.2%
|
95−100
−72.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+47%
|
260−270
−47%
|
Grand Theft Auto V | 98
+42%
|
69
−42%
|
Metro Exodus | 75
+21%
|
62
−21%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
+31.1%
|
250−260
−31.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
+6.2%
|
95−100
−6.2%
|
Cyberpunk 2077 | 62
+10.7%
|
56
−10.7%
|
Dead Island 2 | 120−130
+42.2%
|
90
−42.2%
|
Far Cry 5 | 125
+13.6%
|
110
−13.6%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
+56.5%
|
100−110
−56.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
+72.1%
|
68
−72.1%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+50%
|
100−105
−50%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 43
−2.3%
|
40−45
+2.3%
|
Dead Island 2 | 38
+58.3%
|
24−27
−58.3%
|
Grand Theft Auto V | 117
+50%
|
78
−50%
|
Metro Exodus | 49
+6.5%
|
46
−6.5%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
+7.1%
|
84
−7.1%
|
Valorant | 300−350
+32.9%
|
230−240
−32.9%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70
+16.7%
|
60−65
−16.7%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+56.8%
|
40−45
−56.8%
|
Cyberpunk 2077 | 30
+0%
|
30
+0%
|
Dead Island 2 | 55−60
+12%
|
50
−12%
|
Dota 2 | 125
+47.1%
|
85−90
−47.1%
|
Far Cry 5 | 70
+18.6%
|
59
−18.6%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
+66.7%
|
70−75
−66.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
+82.4%
|
50−55
−82.4%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+59.2%
|
45−50
−59.2%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 และ Arc B580 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เร็วกว่า 18% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3070 เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3070 เร็วกว่า 50% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dead Island 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 3070 เร็วกว่า 107%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ Arc B580 เร็วกว่า 21%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3070 เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (81%)
- Arc B580 เหนือกว่าใน 9การทดสอบ (15%)
- เสมอกันใน 3การทดสอบ (5%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 55.90 | 39.62 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 13 ธันวาคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 วัตต์ | 190 วัตต์ |
RTX 3070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 41.1%
ในทางกลับกัน Arc B580 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 15.8%
GeForce RTX 3070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Arc B580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ