GeForce RTX 4070 เทียบกับ RTX 3070
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3070 และ GeForce RTX 4070 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3070 อย่างมาก 21% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 45 | 24 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | 36 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 57.77 | 60.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.14 | 24.11 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | AD104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 12 เมษายน 2023 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $599 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 3070 อยู่ 5%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 5888 | 5888 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1920 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1725 MHz | 2475 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 35,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 Watt | 200 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 317.4 | 455.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 20.31 TFLOPS | 29.15 TFLOPS |
ROPs | 96 | 64 |
TMUs | 184 | 184 |
Tensor Cores | 184 | 184 |
Ray Tracing Cores | 46 | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 240 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1313 MHz |
448.0 จีบี/s | 504.2 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.3 |
CUDA | 8.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 150
−43.3%
| 215
+43.3%
|
1440p | 98
−23.5%
| 121
+23.5%
|
4K | 64
−14.1%
| 73
+14.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.33
−19.4%
| 2.79
+19.4%
|
1440p | 5.09
−2.9%
| 4.95
+2.9%
|
4K | 7.80
+5.2%
| 8.21
−5.2%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 263
−21.7%
|
320
+21.7%
|
Counter-Strike 2 | 149
−11.4%
|
160−170
+11.4%
|
Cyberpunk 2077 | 147
−46.9%
|
216
+46.9%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 196
−27.6%
|
250
+27.6%
|
Battlefield 5 | 149
−16.8%
|
170−180
+16.8%
|
Counter-Strike 2 | 135
−23%
|
160−170
+23%
|
Cyberpunk 2077 | 139
−25.2%
|
174
+25.2%
|
Far Cry 5 | 154
−36.4%
|
210
+36.4%
|
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−23.7%
|
250−260
+23.7%
|
Forza Horizon 5 | 159
−18.9%
|
180−190
+18.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 290−300
−24.1%
|
350−400
+24.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 113
−31%
|
148
+31%
|
Battlefield 5 | 132
−31.8%
|
170−180
+31.8%
|
Counter-Strike 2 | 117
−41.9%
|
160−170
+41.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 126
−13.5%
|
143
+13.5%
|
Dota 2 | 133
−20.3%
|
160−170
+20.3%
|
Far Cry 5 | 148
−37.8%
|
204
+37.8%
|
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−23.7%
|
250−260
+23.7%
|
Forza Horizon 5 | 148
−27.7%
|
180−190
+27.7%
|
Grand Theft Auto V | 139
−25.2%
|
174
+25.2%
|
Metro Exodus | 120
−40%
|
168
+40%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 230
−52.6%
|
351
+52.6%
|
Valorant | 290−300
−24.1%
|
350−400
+24.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
−46.2%
|
170−180
+46.2%
|
Counter-Strike 2 | 105
−58.1%
|
160−170
+58.1%
|
Cyberpunk 2077 | 102
−25.5%
|
128
+25.5%
|
Dota 2 | 125
−20%
|
150−160
+20%
|
Far Cry 5 | 141
−34%
|
189
+34%
|
Forza Horizon 4 | 200−210
−23.7%
|
250−260
+23.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 121
−40.5%
|
170
+40.5%
|
Valorant | 237
−54%
|
350−400
+54%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 230−240
−27.4%
|
300−350
+27.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−45.5%
|
60−65
+45.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
−30.4%
|
450−500
+30.4%
|
Grand Theft Auto V | 98
−39.8%
|
137
+39.8%
|
Metro Exodus | 75
−38.7%
|
104
+38.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−34.1%
|
400−450
+34.1%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 103
−58.3%
|
160−170
+58.3%
|
Cyberpunk 2077 | 62
−30.6%
|
81
+30.6%
|
Far Cry 5 | 125
−36.8%
|
171
+36.8%
|
Forza Horizon 4 | 160−170
−30.2%
|
220−230
+30.2%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 110−120
−33%
|
150−160
+33%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 140−150
−1.3%
|
150−160
+1.3%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 45−50
−30.4%
|
60−65
+30.4%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−45.2%
|
45−50
+45.2%
|
Grand Theft Auto V | 117
−24.8%
|
146
+24.8%
|
Metro Exodus | 49
−32.7%
|
65
+32.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 90
−27.8%
|
115
+27.8%
|
Valorant | 300−350
−7.8%
|
300−350
+7.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 70
−70%
|
110−120
+70%
|
Counter-Strike 2 | 16
−181%
|
45−50
+181%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−20%
|
36
+20%
|
Dota 2 | 125
−20%
|
150−160
+20%
|
Far Cry 5 | 70
−32.9%
|
93
+32.9%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−43.3%
|
170−180
+43.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
−3.2%
|
95−100
+3.2%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3070 และ RTX 4070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เร็วกว่า 43% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 เร็วกว่า 23% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 เร็วกว่า 14% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 4070 เร็วกว่า 181%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (90%)
- เสมอกันใน 6การทดสอบ (10%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 57.26 | 69.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กันยายน 2020 | 12 เมษายน 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 220 วัตต์ | 200 วัตต์ |
RTX 4070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 20.8% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 10%
GeForce RTX 4070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3070 ในการทดสอบประสิทธิภาพ