GeForce RTX 5080 เทียบกับ RTX 3060 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 3060 Ti และ GeForce RTX 5080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 5080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 3060 Ti อย่างน่าประทับใจ 77% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 63 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | 19 | 100 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 66.39 | 40.59 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 18.01 | 17.73 |
สถาปัตยกรรม | Ampere (2020−2024) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | GA104 | GB203 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 ธันวาคม 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มกราคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $399 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RTX 5080 อยู่ 64%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 4864 | 10752 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1410 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1665 MHz | 2617 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 17,400 million | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 Watt | 360 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 253.1 | 879.3 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 16.2 TFLOPS | 56.28 TFLOPS |
ROPs | 80 | 112 |
TMUs | 152 | 336 |
Tensor Cores | 152 | 336 |
Ray Tracing Cores | 38 | 84 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | 242 mm | 304 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 12-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1875 MHz |
448.0 จีบี/s | 960.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2 | 1.4 |
CUDA | 8.6 | 10.1 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 139
−46%
| 203
+46%
|
1440p | 78
−105%
| 160
+105%
|
4K | 49
−122%
| 109
+122%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.87
+71.4%
| 4.92
−71.4%
|
1440p | 5.12
+22.1%
| 6.24
−22.1%
|
4K | 8.14
+12.6%
| 9.17
−12.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 145
−88.3%
|
270−280
+88.3%
|
Counter-Strike 2 | 344
+3.6%
|
300−350
−3.6%
|
Cyberpunk 2077 | 132
−71.2%
|
220−230
+71.2%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 117
−133%
|
270−280
+133%
|
Battlefield 5 | 145
−35.9%
|
190−200
+35.9%
|
Counter-Strike 2 | 330
−0.6%
|
300−350
+0.6%
|
Cyberpunk 2077 | 113
−100%
|
220−230
+100%
|
Far Cry 5 | 144
−61.1%
|
230−240
+61.1%
|
Fortnite | 210−220
−42.5%
|
300−350
+42.5%
|
Forza Horizon 4 | 200
−72%
|
300−350
+72%
|
Forza Horizon 5 | 176
−36.9%
|
240−250
+36.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
Valorant | 270−280
−124%
|
600−650
+124%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 98
−179%
|
270−280
+179%
|
Battlefield 5 | 124
−58.9%
|
190−200
+58.9%
|
Counter-Strike 2 | 224
−48.2%
|
300−350
+48.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 95
−138%
|
220−230
+138%
|
Dota 2 | 145
−72.4%
|
250−260
+72.4%
|
Far Cry 5 | 137
−69.3%
|
230−240
+69.3%
|
Fortnite | 210−220
−42.5%
|
300−350
+42.5%
|
Forza Horizon 4 | 196
−75.5%
|
300−350
+75.5%
|
Forza Horizon 5 | 158
−52.5%
|
240−250
+52.5%
|
Grand Theft Auto V | 141
−23.4%
|
170−180
+23.4%
|
Metro Exodus | 110
+69.2%
|
65
−69.2%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 185
−114%
|
350−400
+114%
|
Valorant | 270−280
−124%
|
600−650
+124%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 98
−155%
|
250
+155%
|
Battlefield 5 | 114
−72.8%
|
190−200
+72.8%
|
Cyberpunk 2077 | 84
−169%
|
220−230
+169%
|
Dota 2 | 135
−70.4%
|
230−240
+70.4%
|
Far Cry 5 | 129
−79.8%
|
230−240
+79.8%
|
Forza Horizon 4 | 173
−98.8%
|
300−350
+98.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−1.1%
|
170−180
+1.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 92
−207%
|
282
+207%
|
Valorant | 274
−121%
|
600−650
+121%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 210−220
−42.5%
|
300−350
+42.5%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 146
−97.9%
|
280−290
+97.9%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 300−350
−48.7%
|
500−550
+48.7%
|
Grand Theft Auto V | 97
−72.2%
|
160−170
+72.2%
|
Metro Exodus | 66
−162%
|
173
+162%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 300−350
−60.6%
|
450−500
+60.6%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 64
−205%
|
195
+205%
|
Battlefield 5 | 98
−100%
|
190−200
+100%
|
Cyberpunk 2077 | 54
−165%
|
140−150
+165%
|
Far Cry 5 | 105
−117%
|
220−230
+117%
|
Forza Horizon 4 | 150
−104%
|
300−350
+104%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
−129%
|
236
+129%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−11.9%
|
150−160
+11.9%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 45−50
−254%
|
170
+254%
|
Counter-Strike 2 | 36
−52.8%
|
55
+52.8%
|
Grand Theft Auto V | 107
−74.8%
|
180−190
+74.8%
|
Metro Exodus | 43
−188%
|
120−130
+188%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
−206%
|
236
+206%
|
Valorant | 280−290
−14.9%
|
300−350
+14.9%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 35
−214%
|
110
+214%
|
Battlefield 5 | 65
−109%
|
130−140
+109%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−121%
|
130−140
+121%
|
Cyberpunk 2077 | 25
−184%
|
70−75
+184%
|
Dota 2 | 109
−74.3%
|
190−200
+74.3%
|
Far Cry 5 | 65
−162%
|
170−180
+162%
|
Forza Horizon 4 | 103
−196%
|
300−350
+196%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−21.5%
|
95−100
+21.5%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−12.9%
|
75−80
+12.9%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 3060 Ti และ RTX 5080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5080 เร็วกว่า 46% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5080 เร็วกว่า 105% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5080 เร็วกว่า 122% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3060 Ti เร็วกว่า 69%
- ในเกม Baldur's Gate 3 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5080 เร็วกว่า 254%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 3060 Ti เหนือกว่าใน 2การทดสอบ (3%)
- RTX 5080 เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (94%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 51.05 | 90.38 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 ธันวาคม 2020 | 30 มกราคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 8 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 200 วัตต์ | 360 วัตต์ |
RTX 3060 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 80%
ในทางกลับกัน RTX 5080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 77% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 60%
GeForce RTX 5080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 3060 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ