GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ RTX 2080 Super Max-Q
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce RTX 2080 Super Max-Q กับ GeForce RTX 4070 Ti SUPER รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4070 Ti SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 2080 Super Max-Q อย่างมหาศาลถึง 132% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 142 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 91 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 49.05 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 30.64 | 19.95 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU104 | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 2 เมษายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3072 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 735 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1080 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 13,600 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 207.4 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.636 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 64 | 96 |
TMUs | 192 | 264 |
Tensor Cores | 384 | 264 |
Ray Tracing Cores | 48 | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1375 MHz | 1313 MHz |
352.0 จีบี/s | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
รองรับ G-SYNC | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | + | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.140 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
DLSS | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 110
−107%
| 228
+107%
|
1440p | 75
−100%
| 150
+100%
|
4K | 47
−85.1%
| 87
+85.1%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.50 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.33 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.18 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 95−100
−136%
|
220−230
+136%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−163%
|
189
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−163%
|
197
+163%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 95−100
−136%
|
220−230
+136%
|
Battlefield 5 | 139
−38.8%
|
190−200
+38.8%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−163%
|
189
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−161%
|
196
+161%
|
Far Cry 5 | 115
−76.5%
|
203
+76.5%
|
Fortnite | 121
−150%
|
300−350
+150%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−145%
|
300−350
+145%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−124%
|
210−220
+124%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.1%
|
170−180
+34.1%
|
Valorant | 200−210
−132%
|
450−500
+132%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 95−100
−136%
|
220−230
+136%
|
Battlefield 5 | 127
−52%
|
190−200
+52%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−138%
|
171
+138%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−0.4%
|
270−280
+0.4%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−129%
|
172
+129%
|
Dota 2 | 124
−126%
|
280−290
+126%
|
Far Cry 5 | 108
−82.4%
|
197
+82.4%
|
Fortnite | 114
−165%
|
300−350
+165%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−145%
|
300−350
+145%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−124%
|
210−220
+124%
|
Grand Theft Auto V | 120
−45%
|
174
+45%
|
Metro Exodus | 77
−155%
|
196
+155%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.1%
|
170−180
+34.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 143
−201%
|
430
+201%
|
Valorant | 200−210
−132%
|
450−500
+132%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 119
−62.2%
|
190−200
+62.2%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−108%
|
150
+108%
|
Cyberpunk 2077 | 75−80
−111%
|
158
+111%
|
Dota 2 | 118
−129%
|
270−280
+129%
|
Far Cry 5 | 102
−84.3%
|
188
+84.3%
|
Forza Horizon 4 | 120−130
−145%
|
300−350
+145%
|
Forza Horizon 5 | 95−100
−127%
|
220−230
+127%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 130−140
−34.1%
|
170−180
+34.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 88
−139%
|
210
+139%
|
Valorant | 154
−206%
|
450−500
+206%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 100
−202%
|
300−350
+202%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−126%
|
500−550
+126%
|
Grand Theft Auto V | 65−70
−138%
|
155
+138%
|
Metro Exodus | 51
−157%
|
131
+157%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 230−240
−104%
|
450−500
+104%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 96
−104%
|
190−200
+104%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−114%
|
60−65
+114%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−189%
|
104
+189%
|
Far Cry 5 | 77
−143%
|
187
+143%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
−210%
|
280−290
+210%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−120%
|
130−140
+120%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60−65
−165%
|
159
+165%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 80
−88.8%
|
150−160
+88.8%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 27−30
−185%
|
75−80
+185%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−350%
|
72
+350%
|
Grand Theft Auto V | 72
−153%
|
182
+153%
|
Metro Exodus | 32
−163%
|
84
+163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 54
−250%
|
180−190
+250%
|
Valorant | 200−210
−66%
|
300−350
+66%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 56
−143%
|
130−140
+143%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−37.5%
|
22
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−213%
|
50
+213%
|
Dota 2 | 102
−125%
|
230−240
+125%
|
Far Cry 5 | 42
−183%
|
119
+183%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−313%
|
240−250
+313%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−129%
|
80−85
+129%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−134%
|
95−100
+134%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 45
−75.6%
|
75−80
+75.6%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 95−100
+0%
|
95−100
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RTX 2080 Super Max-Q และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 107% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 100% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 85% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 350%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 59การทดสอบ (97%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 35.41 | 82.19 |
ความใหม่ล่าสุด | 2 เมษายน 2020 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 80 วัตต์ | 285 วัตต์ |
RTX 2080 Super Max-Q มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 256.3%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 132.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 2080 Super Max-Q ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce RTX 2080 Super Max-Q เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป