GeForce RTX 4080 เทียบกับ MX250
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX250 กับ GeForce RTX 4080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 4080 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX250 อย่างมหาศาลถึง 1342% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 589 | 4 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 29.11 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 42.94 | 19.34 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP108B | AD103 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 20 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $1,199 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 9728 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 937 MHz | 2205 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 2505 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,800 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 24.91 | 761.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.7972 TFLOPS | 48.74 TFLOPS |
ROPs | 16 | 112 |
TMUs | 24 | 304 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 304 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 76 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x4 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 310 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1502 MHz | 1400 MHz |
48.06 จีบี/s | 716.8 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Portable Device Dependent | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 (6.4) | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 3.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 23
−917%
| 234
+917%
|
1440p | 10−12
−1530%
| 163
+1530%
|
4K | 7−8
−1429%
| 107
+1429%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 5.12 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 7.36 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 11.21 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 27
−793%
|
240−250
+793%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1469%
|
200−210
+1469%
|
Cyberpunk 2077 | 14
−1550%
|
231
+1550%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 20
−1035%
|
227
+1035%
|
Battlefield 5 | 24
−721%
|
190−200
+721%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1569%
|
217
+1569%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−2000%
|
231
+2000%
|
Far Cry 5 | 19
−1074%
|
223
+1074%
|
Fortnite | 55
−449%
|
300−350
+449%
|
Forza Horizon 4 | 31
−1010%
|
300−350
+1010%
|
Forza Horizon 5 | 16
−1456%
|
249
+1456%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 28
−532%
|
170−180
+532%
|
Valorant | 118
−367%
|
550−600
+367%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 7
−2829%
|
205
+2829%
|
Battlefield 5 | 19
−937%
|
190−200
+937%
|
Counter-Strike 2 | 5
−3940%
|
202
+3940%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−184%
|
270−280
+184%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1650%
|
210
+1650%
|
Dota 2 | 64
−289%
|
249
+289%
|
Far Cry 5 | 17
−1182%
|
218
+1182%
|
Fortnite | 25
−1108%
|
300−350
+1108%
|
Forza Horizon 4 | 24
−1333%
|
300−350
+1333%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−1607%
|
239
+1607%
|
Grand Theft Auto V | 28
−536%
|
178
+536%
|
Metro Exodus | 7
−2943%
|
213
+2943%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 23
−670%
|
170−180
+670%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21
−2495%
|
545
+2495%
|
Valorant | 115
−379%
|
550−600
+379%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14
−1307%
|
190−200
+1307%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−1208%
|
170
+1208%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−1483%
|
190
+1483%
|
Dota 2 | 57
−309%
|
233
+309%
|
Far Cry 5 | 16
−1175%
|
204
+1175%
|
Forza Horizon 4 | 16
−2050%
|
300−350
+2050%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
−1329%
|
200−210
+1329%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 19
−832%
|
170−180
+832%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12
−2058%
|
259
+2058%
|
Valorant | 65−70
−758%
|
575
+758%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 22
−1273%
|
300−350
+1273%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 45−50
−1047%
|
500−550
+1047%
|
Grand Theft Auto V | 7−8
−2214%
|
162
+2214%
|
Metro Exodus | 5−6
−2980%
|
154
+2980%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−373%
|
170−180
+373%
|
Valorant | 65−70
−635%
|
450−500
+635%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 9−10
−2078%
|
190−200
+2078%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−1275%
|
110−120
+1275%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−2480%
|
129
+2480%
|
Far Cry 5 | 10−12
−1727%
|
201
+1727%
|
Forza Horizon 4 | 14−16
−2086%
|
300−350
+2086%
|
Forza Horizon 5 | 9−10
−1233%
|
120−130
+1233%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−2022%
|
191
+2022%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−1158%
|
150−160
+1158%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−1700%
|
90−95
+1700%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 82 |
Grand Theft Auto V | 16−18
−988%
|
185
+988%
|
Metro Exodus | 0−1 | 104 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 3−4
−6133%
|
187
+6133%
|
Valorant | 30−33
−1007%
|
300−350
+1007%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 4−5
−3300%
|
130−140
+3300%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 29 |
Cyberpunk 2077 | 2−3
−3050%
|
63
+3050%
|
Dota 2 | 21−24
−981%
|
227
+981%
|
Far Cry 5 | 6−7
−2233%
|
140
+2233%
|
Forza Horizon 4 | 9−10
−3278%
|
300−350
+3278%
|
Forza Horizon 5 | 3−4
−1233%
|
40−45
+1233%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−1500%
|
95−100
+1500%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 6−7
−1217%
|
75−80
+1217%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 120−130
+0%
|
120−130
+0%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX250 และ RTX 4080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เร็วกว่า 917% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 เร็วกว่า 1530% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 เร็วกว่า 1429% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 เร็วกว่า 6133%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 6.16 | 88.80 |
ความใหม่ล่าสุด | 20 กุมภาพันธ์ 2019 | 20 กันยายน 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 2 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GeForce MX250 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 3100%
ในทางกลับกัน RTX 4080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 1341.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 3 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 4080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX250 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า GeForce MX250 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 4080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป