Radeon 660M เทียบกับ GeForce MX150
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce MX150 และ Radeon 660M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
660M มีประสิทธิภาพดีกว่า MX150 อย่างน่าสนใจ 40% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 600 | 519 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 40.42 | 14.11 |
สถาปัตยกรรม | Pascal (2016−2021) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GP108 | Rembrandt+ |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 937 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1038 MHz | 1900 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,800 million | 13,100 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 Watt | 40 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 24.91 | 45.60 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 0.7972 TFLOPS | 1.459 TFLOPS |
ROPs | 16 | 16 |
TMUs | 24 | 24 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 6 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 64 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1253 MHz | System Shared |
40.1 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | Portable Device Dependent |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 6.1 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Time Spy Graphics
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 28
+12%
| 25
−12%
|
1440p | 30
−33.3%
| 40−45
+33.3%
|
4K | 19
−26.3%
| 24−27
+26.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 12−14
−123%
|
29
+123%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−25%
|
14−16
+25%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−118%
|
24
+118%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 12−14
−76.9%
|
23
+76.9%
|
Battlefield 5 | 39
+14.7%
|
30−35
−14.7%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−25%
|
14−16
+25%
|
Cyberpunk 2077 | 11
−81.8%
|
20
+81.8%
|
Far Cry 5 | 17
−76.5%
|
30
+76.5%
|
Fortnite | 59
+25.5%
|
45−50
−25.5%
|
Forza Horizon 4 | 25
−36%
|
30−35
+36%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−150%
|
30
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 26
−7.7%
|
27−30
+7.7%
|
Valorant | 100
+25%
|
80−85
−25%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 12−14
+0%
|
13
+0%
|
Battlefield 5 | 32
−6.3%
|
30−35
+6.3%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
+9.1%
|
11
−9.1%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 87
−40.2%
|
120−130
+40.2%
|
Cyberpunk 2077 | 7
−100%
|
14
+100%
|
Dota 2 | 68
+21.4%
|
56
−21.4%
|
Far Cry 5 | 16
−62.5%
|
26
+62.5%
|
Fortnite | 34
−38.2%
|
45−50
+38.2%
|
Forza Horizon 4 | 21
−61.9%
|
30−35
+61.9%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−58.3%
|
18−20
+58.3%
|
Grand Theft Auto V | 26
+4%
|
25
−4%
|
Metro Exodus | 6
−150%
|
15
+150%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 22
−27.3%
|
27−30
+27.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 19
−36.8%
|
26
+36.8%
|
Valorant | 100
+25%
|
80−85
−25%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 26
−30.8%
|
30−35
+30.8%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−25%
|
14−16
+25%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−45.5%
|
16−18
+45.5%
|
Dota 2 | 62
+29.2%
|
48
−29.2%
|
Far Cry 5 | 14
−78.6%
|
25
+78.6%
|
Forza Horizon 4 | 14
−143%
|
30−35
+143%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−58.3%
|
18−20
+58.3%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 15
−86.7%
|
27−30
+86.7%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 11
−36.4%
|
15
+36.4%
|
Valorant | 65−70
−23.1%
|
80−85
+23.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 24
−95.8%
|
45−50
+95.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike: Global Offensive | 55
−7.3%
|
55−60
+7.3%
|
Grand Theft Auto V | 6−7
−66.7%
|
10−11
+66.7%
|
Metro Exodus | 4−5
−100%
|
8−9
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 43
+4.9%
|
40−45
−4.9%
|
Valorant | 66
−31.8%
|
85−90
+31.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 7−8
−129%
|
16−18
+129%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−37.5%
|
10−12
+37.5%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−50%
|
6−7
+50%
|
Far Cry 5 | 10−12
−45.5%
|
16−18
+45.5%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−38.5%
|
18−20
+38.5%
|
Forza Horizon 5 | 9−10
−44.4%
|
12−14
+44.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 9−10
−33.3%
|
12−14
+33.3%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 10−12
−45.5%
|
16−18
+45.5%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 5−6
−20%
|
6−7
+20%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 2−3 |
Counter-Strike: Global Offensive | 30
−33.3%
|
40−45
+33.3%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−11.8%
|
18−20
+11.8%
|
Metro Exodus | 0−1 | 3−4 |
The Witcher 3: Wild Hunt | 2−3
−250%
|
7−8
+250%
|
Valorant | 33
−21.2%
|
40−45
+21.2%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 3−4
−167%
|
8−9
+167%
|
Counter-Strike 2 | 0−1 | 2−3 |
Cyberpunk 2077 | 2−3
+0%
|
2−3
+0%
|
Dota 2 | 24
−16.7%
|
27−30
+16.7%
|
Far Cry 5 | 6−7
−33.3%
|
8−9
+33.3%
|
Forza Horizon 4 | 8−9
−50%
|
12−14
+50%
|
Forza Horizon 5 | 3−4
−66.7%
|
5−6
+66.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 6−7
−16.7%
|
7−8
+16.7%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 5−6
−40%
|
7−8
+40%
|
นี่คือวิธีที่ GeForce MX150 และ Radeon 660M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GeForce MX150 เร็วกว่า 12% ในความละเอียด 1080p
- Radeon 660M เร็วกว่า 33% ในความละเอียด 1440p
- Radeon 660M เร็วกว่า 26% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GeForce MX150 เร็วกว่า 29%
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Radeon 660M เร็วกว่า 250%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GeForce MX150 เหนือกว่าใน 9การทดสอบ (14%)
- Radeon 660M เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (83%)
- เสมอกันใน 2การทดสอบ (3%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 5.88 | 8.21 |
ความใหม่ล่าสุด | 17 พฤษภาคม 2017 | 3 มกราคม 2023 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 10 วัตต์ | 40 วัตต์ |
GeForce MX150 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน Radeon 660M มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 39.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
Radeon 660M เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX150 ในการทดสอบประสิทธิภาพ