GeForce GTX 750 Ti เทียบกับ GTX 970
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 970 และ GeForce GTX 750 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 970 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 750 Ti อย่างมหาศาลถึง 147% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 224 | 451 |
จัดอันดับตามความนิยม | 60 | 30 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 13.80 | 4.98 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.65 | 11.63 |
สถาปัตยกรรม | Maxwell 2.0 (2014−2019) | Maxwell (2014−2017) |
ชื่อรหัส GPU | GM204 | GM107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 19 กันยายน 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) | 18 กุมภาพันธ์ 2014 (เมื่อ 10 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $329 | $149 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 970 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 750 Ti อยู่ 177%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1664 | 640 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1050 MHz | 1020 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1178 MHz | 1085 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,200 million | 1,870 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 148 Watt | 60 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 98 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 122.5 | 43.40 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.92 TFLOPS | 1.389 TFLOPS |
ROPs | 56 | 16 |
TMUs | 104 | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI Express 3.0 | PCI Express 3.0 |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 145 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | 11.1 ซม |
ความกว้าง | 2-slot | 1-slot |
กำลังไฟระบบที่แนะนำ (PSU) | 500 วัตต์ | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | None |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 7.0 จีบี/s | 5.4 จีบี/s |
224 จีบี/s | 86.4 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Dual Link DVI-I, HDMI 2.0, 3x DisplayPort 1.2 | One Dual Link DVI-I, One Dual Link DVI-D, One mini-HDMI |
รองรับหลายจอภาพ | 4 displays | 4 displays |
HDMI | + | + |
HDCP | + | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | 2048x1536 |
รองรับ G-SYNC | + | - |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | Internal |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
Blu Ray 3D | - | + |
3D Gaming | - | + |
3D Vision | - | + |
GameStream | + | - |
GeForce ShadowPlay | + | - |
GPU Boost | 2.0 | ไม่มีข้อมูล |
GameWorks | + | - |
3D Vision Live | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (11_0) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 5.1 |
OpenGL | 4.4 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.1.126 | 1.1.126 |
CUDA | + | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
GeekBench 5 CUDA
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ CUDA API โดย NVIDIA
Octane Render OctaneBench
นี่คือการทดสอบพิเศษสำหรับวัดประสิทธิภาพการ์ดจอใน OctaneRender ซึ่งเป็นเอนจินเรนเดอร์ GPU แบบสมจริงโดย OTOY Inc. สามารถใช้งานได้ทั้งแบบโปรแกรมเดี่ยวและปลั๊กอินสำหรับ 3DS Max, Cinema 4D และแอปพลิเคชันอื่น ๆ เรนเดอร์ฉากนิ่ง 4 ฉาก จากนั้นเปรียบเทียบเวลาเรนเดอร์กับ GPU อ้างอิง ซึ่งปัจจุบันคือ GeForce GTX 980 การทดสอบนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเล่นเกมและมุ่งเน้นไปที่นักออกแบบกราฟิก 3 มิติมืออาชีพ
Unigine Heaven 4.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 81
+62%
| 50
−62%
|
1440p | 54
+157%
| 21−24
−157%
|
4K | 38
+171%
| 14−16
−171%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.06
−36.3%
| 2.98
+36.3%
|
1440p | 6.09
+16.5%
| 7.10
−16.5%
|
4K | 8.66
+22.9%
| 10.64
−22.9%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 65−70
+183%
|
21−24
−183%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+168%
|
18−20
−168%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 65−70
+183%
|
21−24
−183%
|
Battlefield 5 | 90−95
+121%
|
40−45
−121%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+168%
|
18−20
−168%
|
Far Cry 5 | 75−80
+147%
|
30−35
−147%
|
Fortnite | 110−120
+105%
|
55−60
−105%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+129%
|
40−45
−129%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+179%
|
24−27
−179%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
+168%
|
30−35
−168%
|
Valorant | 160−170
+79.1%
|
90−95
−79.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 65−70
+183%
|
21−24
−183%
|
Battlefield 5 | 90−95
+121%
|
40−45
−121%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 250−260
+76.4%
|
140−150
−76.4%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+168%
|
18−20
−168%
|
Dota 2 | 120−130
+75.4%
|
65−70
−75.4%
|
Far Cry 5 | 75−80
+147%
|
30−35
−147%
|
Fortnite | 82
+43.9%
|
55−60
−43.9%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+129%
|
40−45
−129%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+179%
|
24−27
−179%
|
Grand Theft Auto V | 71
+97.2%
|
35−40
−97.2%
|
Metro Exodus | 39
+105%
|
18−20
−105%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 90−95
+168%
|
30−35
−168%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 81
+224%
|
24−27
−224%
|
Valorant | 160−170
+79.1%
|
90−95
−79.1%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 48
+14.3%
|
40−45
−14.3%
|
Counter-Strike 2 | 45−50
+156%
|
18−20
−156%
|
Cyberpunk 2077 | 50−55
+168%
|
18−20
−168%
|
Dota 2 | 120−130
+75.4%
|
65−70
−75.4%
|
Far Cry 5 | 75−80
+147%
|
30−35
−147%
|
Forza Horizon 4 | 90−95
+129%
|
40−45
−129%
|
Forza Horizon 5 | 65−70
+179%
|
24−27
−179%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 52
+52.9%
|
30−35
−52.9%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+72%
|
24−27
−72%
|
Valorant | 160−170
+79.1%
|
90−95
−79.1%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 60
+5.3%
|
55−60
−5.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+91.7%
|
12−14
−91.7%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
+127%
|
70−75
−127%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
+200%
|
14−16
−200%
|
Metro Exodus | 24
+140%
|
10−11
−140%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+265%
|
45−50
−265%
|
Valorant | 200−210
+90.6%
|
100−110
−90.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 65−70
+187%
|
21−24
−187%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
+188%
|
8−9
−188%
|
Far Cry 5 | 50−55
+170%
|
20−22
−170%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
+161%
|
21−24
−161%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
+147%
|
16−18
−147%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35−40
+160%
|
14−16
−160%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 55−60
+180%
|
20−22
−180%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 18−20
+138%
|
8−9
−138%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
+267%
|
3−4
−267%
|
Grand Theft Auto V | 46
+130%
|
20−22
−130%
|
Metro Exodus | 13
+160%
|
5−6
−160%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 29
+190%
|
10−11
−190%
|
Valorant | 130−140
+174%
|
50−55
−174%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 20
+81.8%
|
10−12
−81.8%
|
Counter-Strike 2 | 10−12
+267%
|
3−4
−267%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
+233%
|
3−4
−233%
|
Dota 2 | 75−80
+120%
|
35−40
−120%
|
Far Cry 5 | 27−30
+170%
|
10−11
−170%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
+156%
|
16−18
−156%
|
Forza Horizon 5 | 21−24
+214%
|
7−8
−214%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 18
+100%
|
9−10
−100%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 22
+144%
|
9−10
−144%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 970 และ GTX 750 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 970 เร็วกว่า 62% ในความละเอียด 1080p
- GTX 970 เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 1440p
- GTX 970 เร็วกว่า 171% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 970 เร็วกว่า 267%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น GTX 970 เหนือกว่า GTX 750 Ti ในการทดสอบทั้ง 67 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 24.92 | 10.08 |
ความใหม่ล่าสุด | 19 กันยายน 2014 | 18 กุมภาพันธ์ 2014 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 148 วัตต์ | 60 วัตต์ |
GTX 970 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 147.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือน
ในทางกลับกัน GTX 750 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 146.7%
GeForce GTX 970 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 750 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ