GeForce RTX 4080 SUPER เทียบกับ GTX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 580 และ GeForce RTX 4080 SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4080 SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 580 อย่างมหาศาลถึง 642% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 418 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 73 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.81 | 38.53 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.37 | 19.09 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GF110 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 9 พฤศจิกายน 2010 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $999 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4080 SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 580 อยู่ 2029%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | 10240 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 772 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 2550 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 244 Watt | 320 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 97 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 49.41 | 816.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.581 TFLOPS | 52.22 TFLOPS |
ROPs | 48 | 112 |
TMUs | 64 | 320 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI-E 2.0 x 16 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 310 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 1536 เอ็มบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2004 MHz (4008 data rate) | 1438 MHz |
192.4 จีบี/s | 736.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Mini HDMITwo Dual Link DVI | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.8 |
OpenGL | 4.2 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 3.0 |
Vulkan | + | 1.3 |
CUDA | + | 8.9 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 53
−560%
| 350−400
+560%
|
Full HD | 99
−158%
| 255
+158%
|
1200p | 78
−605%
| 550−600
+605%
|
1440p | 21−24
−743%
| 177
+743%
|
4K | 14−16
−736%
| 117
+736%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.04
−28.7%
| 3.92
+28.7%
|
1440p | 23.76
−321%
| 5.64
+321%
|
4K | 35.64
−317%
| 8.54
+317%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 27−30
−971%
|
300
+971%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−475%
|
351
+475%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−983%
|
249
+983%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 27−30
−900%
|
280
+900%
|
Battlefield 5 | 45−50
−302%
|
190−200
+302%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−464%
|
344
+464%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−970%
|
246
+970%
|
Far Cry 5 | 35−40
−532%
|
240
+532%
|
Fortnite | 65−70
−358%
|
300−350
+358%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−617%
|
344
+617%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−780%
|
308
+780%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
Valorant | 100−110
−432%
|
500−550
+432%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 27−30
−675%
|
217
+675%
|
Battlefield 5 | 45−50
−302%
|
190−200
+302%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−456%
|
339
+456%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−70.6%
|
270−280
+70.6%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−935%
|
238
+935%
|
Dota 2 | 75−80
−614%
|
550−600
+614%
|
Far Cry 5 | 35−40
−497%
|
227
+497%
|
Fortnite | 65−70
−358%
|
300−350
+358%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−613%
|
342
+613%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−714%
|
285
+714%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−316%
|
179
+316%
|
Metro Exodus | 21−24
−887%
|
227
+887%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−1723%
|
547
+1723%
|
Valorant | 100−110
−432%
|
500−550
+432%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−302%
|
190−200
+302%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−765%
|
199
+765%
|
Dota 2 | 75−80
−614%
|
550−600
+614%
|
Far Cry 5 | 35−40
−458%
|
212
+458%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−571%
|
322
+571%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−777%
|
263
+777%
|
Valorant | 100−110
−432%
|
500−550
+432%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−358%
|
300−350
+358%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−1205%
|
274
+1205%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 85−90
−507%
|
500−550
+507%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−894%
|
169
+894%
|
Metro Exodus | 12−14
−1146%
|
162
+1146%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70−75
−136%
|
170−180
+136%
|
Valorant | 120−130
−298%
|
450−500
+298%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
−553%
|
190−200
+553%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−1180%
|
128
+1180%
|
Far Cry 5 | 24−27
−767%
|
208
+767%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−1033%
|
306
+1033%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−1128%
|
221
+1128%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−529%
|
150−160
+529%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 9−10
−878%
|
85−90
+878%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−2133%
|
134
+2133%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−750%
|
187
+750%
|
Metro Exodus | 7−8
−1414%
|
106
+1414%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−1357%
|
204
+1357%
|
Valorant | 60−65
−453%
|
300−350
+453%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−807%
|
130−140
+807%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−1983%
|
120−130
+1983%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1425%
|
61
+1425%
|
Dota 2 | 40−45
−632%
|
300−310
+632%
|
Far Cry 5 | 12−14
−1108%
|
145
+1108%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−1505%
|
305
+1505%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−773%
|
95−100
+773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 10−12
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 580 และ RTX 4080 SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 560% ในความละเอียด 900p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 158% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 605% ในความละเอียด 1200p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 743% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 736% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4080 SUPER เร็วกว่า 2133%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 4080 SUPER เหนือกว่า GTX 580 ในการทดสอบทั้ง 60 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 10.34 | 76.73 |
ความใหม่ล่าสุด | 9 พฤศจิกายน 2010 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1536 เอ็มบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 244 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 31.1%
ในทางกลับกัน RTX 4080 SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 642.1% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 13 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 700%
GeForce RTX 4080 SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ