GeForce RTX 3080 เทียบกับ GTX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 580 และ GeForce RTX 3080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 580 อย่างมหาศาลถึง 446% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 416 | 29 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.07 | 46.44 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.39 | 14.08 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GF110 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 9 พฤศจิกายน 2010 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $499 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 580 อยู่ 2143%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 512 | 8704 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 772 MHz | 1440 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 3,000 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 244 Watt | 320 Watt |
อุณหภูมิ GPU สูงสุด | 97 °C | ไม่มีข้อมูล |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 49.41 | 465.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.581 TFLOPS | 29.77 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 64 | 272 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 272 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 68 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCI-E 2.0 x 16 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 267 mm | 285 mm |
ความสูง | 11.1 ซม | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 12-pin |
ตัวเลือก SLI | + | - |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 1536 เอ็มบี | 10 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 320 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2004 MHz (4008 data rate) | 1188 MHz |
192.4 จีบี/s | 760.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | Mini HDMITwo Dual Link DVI | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
รองรับหลายจอภาพ | + | ไม่มีข้อมูล |
HDMI | + | + |
ความละเอียด VGA สูงสุด | 2048x1536 | ไม่มีข้อมูล |
อินพุตเสียงสำหรับ HDMI | Internal | ไม่มีข้อมูล |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.2 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 2.0 |
Vulkan | + | 1.2 |
CUDA | + | 8.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 53
−428%
| 280−290
+428%
|
Full HD | 99
−68.7%
| 167
+68.7%
|
1200p | 78
−413%
| 400−450
+413%
|
1440p | 21−24
−500%
| 126
+500%
|
4K | 16−18
−450%
| 88
+450%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.04
−20.4%
| 4.19
+20.4%
|
1440p | 23.76
−328%
| 5.55
+328%
|
4K | 31.19
−293%
| 7.94
+293%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 27−30
−996%
|
307
+996%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−670%
|
150−160
+670%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−557%
|
150−160
+557%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 27−30
−754%
|
239
+754%
|
Battlefield 5 | 45−50
−251%
|
172
+251%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−670%
|
150−160
+670%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−500%
|
138
+500%
|
Far Cry 5 | 35−40
−313%
|
157
+313%
|
Fortnite | 65−70
−333%
|
280−290
+333%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−392%
|
230−240
+392%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−407%
|
152
+407%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
Valorant | 100−110
−228%
|
300−350
+228%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 27−30
−425%
|
147
+425%
|
Battlefield 5 | 45−50
−218%
|
156
+218%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−670%
|
150−160
+670%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−70.6%
|
270−280
+70.6%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−483%
|
134
+483%
|
Dota 2 | 75−80
−90.9%
|
147
+90.9%
|
Far Cry 5 | 35−40
−295%
|
150
+295%
|
Fortnite | 65−70
−333%
|
280−290
+333%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−392%
|
230−240
+392%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−367%
|
140
+367%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−242%
|
147
+242%
|
Metro Exodus | 21−24
−457%
|
128
+457%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−910%
|
303
+910%
|
Valorant | 100−110
−228%
|
300−350
+228%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−196%
|
145
+196%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−670%
|
150−160
+670%
|
Cyberpunk 2077 | 21−24
−470%
|
131
+470%
|
Dota 2 | 75−80
−75.3%
|
135
+75.3%
|
Far Cry 5 | 35−40
−268%
|
140
+268%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−392%
|
230−240
+392%
|
Forza Horizon 5 | 30−33
−433%
|
160−170
+433%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−343%
|
170−180
+343%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−397%
|
149
+397%
|
Valorant | 100−110
−163%
|
268
+163%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−333%
|
280−290
+333%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 14−16
−293%
|
55−60
+293%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 85−90
−431%
|
450−500
+431%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−559%
|
112
+559%
|
Metro Exodus | 12−14
−631%
|
95
+631%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 65−70
−161%
|
170−180
+161%
|
Valorant | 120−130
−220%
|
350−400
+220%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
−313%
|
124
+313%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−760%
|
86
+760%
|
Far Cry 5 | 24−27
−463%
|
135
+463%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−641%
|
200−210
+641%
|
Forza Horizon 5 | 20−22
−400%
|
100−105
+400%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−661%
|
130−140
+661%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−529%
|
150−160
+529%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 9−10
−500%
|
50−55
+500%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−875%
|
35−40
+875%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−550%
|
143
+550%
|
Metro Exodus | 7−8
−829%
|
65
+829%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−721%
|
115
+721%
|
Valorant | 60−65
−443%
|
300−350
+443%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−507%
|
91
+507%
|
Counter-Strike 2 | 4−5
−875%
|
35−40
+875%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−975%
|
43
+975%
|
Dota 2 | 40−45
−215%
|
129
+215%
|
Far Cry 5 | 12−14
−683%
|
94
+683%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−689%
|
150−160
+689%
|
Forza Horizon 5 | 9−10
−400%
|
45−50
+400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−773%
|
95−100
+773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 10−12
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 580 และ RTX 3080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เร็วกว่า 428% ในความละเอียด 900p
- RTX 3080 เร็วกว่า 69% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 เร็วกว่า 413% ในความละเอียด 1200p
- RTX 3080 เร็วกว่า 500% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 เร็วกว่า 450% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Atomic Heart ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Low Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 996%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3080 เหนือกว่า GTX 580 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 11.85 | 64.65 |
ความใหม่ล่าสุด | 9 พฤศจิกายน 2010 | 1 กันยายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1536 เอ็มบี | 10 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 244 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 31.1%
ในทางกลับกัน RTX 3080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 445.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 400%
GeForce RTX 3080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ