GeForce RTX 3080 เทียบกับ GTX 560 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 560 Ti และ GeForce RTX 3080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 3080 มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 560 Ti อย่างมหาศาลถึง 723% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 528 | 29 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 1.84 | 46.44 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.21 | 14.04 |
สถาปัตยกรรม | Fermi 2.0 (2010−2014) | Ampere (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | GF114 | GA102 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 25 มกราคม 2011 (เมื่อ 14 ปี ปีที่แล้ว) | 1 กันยายน 2020 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $249 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 3080 มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 560 Ti อยู่ 2424%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 384 | 8704 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 823 MHz | 1440 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | ไม่มีข้อมูล | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 1,950 million | 28,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 40 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 Watt | 320 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 52.67 | 465.1 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 1.263 TFLOPS | 29.77 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 64 | 272 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 272 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 68 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 2.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 285 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 6-pin | 1x 12-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 10 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 320 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1002 MHz | 1188 MHz |
128.3 จีบี/s | 760.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 2x DVI, 1x mini-HDMI | 1x HDMI, 3x DisplayPort |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (11_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.1 | 2.0 |
Vulkan | N/A | 1.2 |
CUDA | 2.1 | 8.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 63
−694%
| 500−550
+694%
|
Full HD | 65
−157%
| 167
+157%
|
1440p | 14−16
−800%
| 126
+800%
|
4K | 10−12
−780%
| 88
+780%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.83
+9.3%
| 4.19
−9.3%
|
1440p | 17.79
−221%
| 5.55
+221%
|
4K | 24.90
−213%
| 7.94
+213%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 18−20
−1606%
|
307
+1606%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−927%
|
150−160
+927%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−907%
|
150−160
+907%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 18−20
−1228%
|
239
+1228%
|
Battlefield 5 | 30−35
−438%
|
172
+438%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−927%
|
150−160
+927%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−820%
|
138
+820%
|
Far Cry 5 | 24−27
−554%
|
157
+554%
|
Fortnite | 45−50
−536%
|
280−290
+536%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−615%
|
230−240
+615%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−744%
|
152
+744%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
Valorant | 75−80
−329%
|
300−350
+329%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 18−20
−717%
|
147
+717%
|
Battlefield 5 | 30−35
−388%
|
156
+388%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−927%
|
150−160
+927%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−134%
|
270−280
+134%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−793%
|
134
+793%
|
Dota 2 | 55−60
−158%
|
147
+158%
|
Far Cry 5 | 24−27
−525%
|
150
+525%
|
Fortnite | 45−50
−536%
|
280−290
+536%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−615%
|
230−240
+615%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−678%
|
140
+678%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−425%
|
147
+425%
|
Metro Exodus | 14−16
−814%
|
128
+814%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−1415%
|
303
+1415%
|
Valorant | 75−80
−329%
|
300−350
+329%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−353%
|
145
+353%
|
Counter-Strike 2 | 14−16
−927%
|
150−160
+927%
|
Cyberpunk 2077 | 14−16
−773%
|
131
+773%
|
Dota 2 | 55−60
−137%
|
135
+137%
|
Far Cry 5 | 24−27
−483%
|
140
+483%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−615%
|
230−240
+615%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−678%
|
140−150
+678%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27−30
−556%
|
170−180
+556%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−645%
|
149
+645%
|
Valorant | 75−80
−244%
|
268
+244%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 45−50
−536%
|
280−290
+536%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−450%
|
55−60
+450%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 55−60
−689%
|
450−500
+689%
|
Grand Theft Auto V | 10−11
−1020%
|
112
+1020%
|
Metro Exodus | 7−8
−1257%
|
95
+1257%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−338%
|
170−180
+338%
|
Valorant | 85−90
−362%
|
350−400
+362%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 14−16
−727%
|
124
+727%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−1333%
|
86
+1333%
|
Far Cry 5 | 14−16
−800%
|
135
+800%
|
Forza Horizon 4 | 18−20
−1011%
|
200−210
+1011%
|
Forza Horizon 5 | 12−14
−669%
|
100−105
+669%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 12−14
−1050%
|
130−140
+1050%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−907%
|
150−160
+907%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 6−7
−800%
|
50−55
+800%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1850%
|
35−40
+1850%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−694%
|
143
+694%
|
Metro Exodus | 2−3
−3150%
|
65
+3150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 6−7
−1817%
|
115
+1817%
|
Valorant | 35−40
−758%
|
300−350
+758%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 7−8
−1200%
|
91
+1200%
|
Counter-Strike 2 | 2−3
−1850%
|
35−40
+1850%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−2050%
|
43
+2050%
|
Dota 2 | 27−30
−378%
|
129
+378%
|
Far Cry 5 | 8−9
−1075%
|
94
+1075%
|
Forza Horizon 4 | 12−14
−1150%
|
150−160
+1150%
|
Forza Horizon 5 | 5−6
−700%
|
40−45
+700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 7−8
−1271%
|
95−100
+1271%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 7−8
−1029%
|
75−80
+1029%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 560 Ti และ RTX 3080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 3080 เร็วกว่า 694% ในความละเอียด 900p
- RTX 3080 เร็วกว่า 157% ในความละเอียด 1080p
- RTX 3080 เร็วกว่า 800% ในความละเอียด 1440p
- RTX 3080 เร็วกว่า 780% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 3080 เร็วกว่า 3150%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 3080 เหนือกว่า GTX 560 Ti ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 7.94 | 65.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 25 มกราคม 2011 | 1 กันยายน 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 1 จีบี | 10 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 40 nm | 8 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 170 วัตต์ | 320 วัตต์ |
GTX 560 Ti มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 88.2%
ในทางกลับกัน RTX 3080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 722.9% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 400%
GeForce RTX 3080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 560 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ