Radeon RX 6750 XT เทียบกับ GeForce GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ Radeon RX 6750 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 6750 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างน่าประทับใจ 78% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 194 | 51 |
จัดอันดับตามความนิยม | 44 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 46.84 | 51.97 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.39 | 14.87 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Navi 22 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 3 มีนาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6750 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 อยู่ 11%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 2560 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 2150 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 2600 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 17,200 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 250 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 416.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 13.31 TFLOPS |
ROPs | 48 | 64 |
TMUs | 88 | 160 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 192 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 2250 MHz |
192.1 จีบี/s | 432.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 2.1 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 86
−93%
| 166
+93%
|
1440p | 52
−65.4%
| 86
+65.4%
|
4K | 29
−69%
| 49
+69%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.55
+29.9%
| 3.31
−29.9%
|
1440p | 4.21
+51.6%
| 6.38
−51.6%
|
4K | 7.55
+48.4%
| 11.20
−48.4%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 111
−121%
|
245
+121%
|
Counter-Strike 2 | 72
−131%
|
166
+131%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−132%
|
165
+132%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 83
−112%
|
176
+112%
|
Battlefield 5 | 100−110
−42.1%
|
150−160
+42.1%
|
Counter-Strike 2 | 56
−132%
|
130
+132%
|
Cyberpunk 2077 | 58
−119%
|
127
+119%
|
Far Cry 5 | 100
−78%
|
178
+78%
|
Fortnite | 130−140
−62.4%
|
210−220
+62.4%
|
Forza Horizon 4 | 132
−45.5%
|
190−200
+45.5%
|
Forza Horizon 5 | 86
−152%
|
217
+152%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−56.3%
|
170−180
+56.3%
|
Valorant | 306
+11.3%
|
270−280
−11.3%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 49
−112%
|
104
+112%
|
Battlefield 5 | 100−110
−42.1%
|
150−160
+42.1%
|
Counter-Strike 2 | 48
−127%
|
109
+127%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
−2.6%
|
270−280
+2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 47
−132%
|
109
+132%
|
Dota 2 | 219
+42.2%
|
154
−42.2%
|
Far Cry 5 | 92
−84.8%
|
170
+84.8%
|
Fortnite | 130−140
−62.4%
|
210−220
+62.4%
|
Forza Horizon 4 | 123
−56.1%
|
190−200
+56.1%
|
Forza Horizon 5 | 63
−195%
|
186
+195%
|
Grand Theft Auto V | 115
−40.9%
|
162
+40.9%
|
Metro Exodus | 57
−123%
|
127
+123%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−56.3%
|
170−180
+56.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 102
−140%
|
245
+140%
|
Valorant | 287
+4.4%
|
270−280
−4.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 100−110
−42.1%
|
150−160
+42.1%
|
Counter-Strike 2 | 43
−123%
|
96
+123%
|
Cyberpunk 2077 | 40
−145%
|
98
+145%
|
Dota 2 | 197
+50.4%
|
131
−50.4%
|
Far Cry 5 | 86
−83.7%
|
158
+83.7%
|
Forza Horizon 4 | 98
−95.9%
|
190−200
+95.9%
|
Forza Horizon 5 | 59
−69.5%
|
100−105
+69.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 110−120
−56.3%
|
170−180
+56.3%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−137%
|
135
+137%
|
Valorant | 115
−139%
|
270−280
+139%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 130−140
−62.4%
|
210−220
+62.4%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−53.8%
|
40−45
+53.8%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 190−200
−79.1%
|
350−400
+79.1%
|
Grand Theft Auto V | 52
−104%
|
106
+104%
|
Metro Exodus | 33
−130%
|
76
+130%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Valorant | 226
−35.8%
|
300−350
+35.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−58.4%
|
120−130
+58.4%
|
Cyberpunk 2077 | 24
−150%
|
60
+150%
|
Far Cry 5 | 59
−139%
|
141
+139%
|
Forza Horizon 4 | 76
−103%
|
150−160
+103%
|
Forza Horizon 5 | 40
−75%
|
70−75
+75%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−112%
|
100−110
+112%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−97.1%
|
130−140
+97.1%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 21−24
−82.6%
|
40−45
+82.6%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−108%
|
27−30
+108%
|
Grand Theft Auto V | 49
−112%
|
104
+112%
|
Metro Exodus | 20
−135%
|
47
+135%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 35
−126%
|
79
+126%
|
Valorant | 125
−134%
|
290−300
+134%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 40−45
−88.6%
|
80−85
+88.6%
|
Counter-Strike 2 | 6
−83.3%
|
11
+83.3%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−160%
|
26
+160%
|
Dota 2 | 87
−16.1%
|
101
+16.1%
|
Far Cry 5 | 30
−160%
|
78
+160%
|
Forza Horizon 4 | 50
−114%
|
100−110
+114%
|
Forza Horizon 5 | 22
−59.1%
|
35−40
+59.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−35
−156%
|
80−85
+156%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−118%
|
70−75
+118%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RX 6750 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6750 XT เร็วกว่า 93% ในความละเอียด 1080p
- RX 6750 XT เร็วกว่า 65% ในความละเอียด 1440p
- RX 6750 XT เร็วกว่า 69% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GTX 1660 เร็วกว่า 50%
- ในเกม Forza Horizon 5 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 6750 XT เร็วกว่า 195%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 เหนือกว่าใน 4การทดสอบ (6%)
- RX 6750 XT เหนือกว่าใน 60การทดสอบ (94%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 29.94 | 53.34 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 3 มีนาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 12 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 250 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 108.3%
ในทางกลับกัน RX 6750 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 78.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 71.4%
Radeon RX 6750 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ