GeForce RTX 4070 Ti SUPER เทียบกับ GTX 1660
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 และ GeForce RTX 4070 Ti SUPER โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 4070 Ti SUPER มีประสิทธิภาพดีกว่า GTX 1660 อย่างมหาศาลถึง 172% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 189 | 6 |
จัดอันดับตามความนิยม | 40 | 82 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 47.57 | 48.94 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 17.43 | 19.98 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | Ada Lovelace (2022−2024) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | AD103 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 มีนาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 8 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $219 | $799 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 4070 Ti SUPER มีความคุ้มค่ามากกว่า GTX 1660 อยู่ 3%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 8448 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1530 MHz | 2340 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1785 MHz | 2610 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 45,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 285 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 157.1 | 689.0 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.027 TFLOPS | 44.1 TFLOPS |
ROPs | 48 | 96 |
TMUs | 88 | 264 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 264 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 66 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 310 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6X |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2001 MHz | 1313 MHz |
192.1 จีบี/s | 672.3 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 3x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
CUDA | 7.5 | 8.9 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 84
−169%
| 226
+169%
|
1440p | 51
−208%
| 157
+208%
|
4K | 27
−256%
| 96
+256%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.61
+35.6%
| 3.54
−35.6%
|
1440p | 4.29
+18.5%
| 5.09
−18.5%
|
4K | 8.11
+2.6%
| 8.32
−2.6%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 72
−163%
|
189
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 71
−168%
|
190−200
+168%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 85−90
−31.5%
|
110−120
+31.5%
|
Counter-Strike 2 | 56
−238%
|
189
+238%
|
Cyberpunk 2077 | 55
−155%
|
140−150
+155%
|
Forza Horizon 4 | 132
−254%
|
467
+254%
|
Forza Horizon 5 | 86
−160%
|
220−230
+160%
|
Metro Exodus | 95
−69.5%
|
160−170
+69.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 112
−38.4%
|
150−160
+38.4%
|
Valorant | 138
−258%
|
450−500
+258%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 85−90
−31.5%
|
110−120
+31.5%
|
Counter-Strike 2 | 48
−256%
|
171
+256%
|
Cyberpunk 2077 | 45
−167%
|
120−130
+167%
|
Dota 2 | 150
−16%
|
174
+16%
|
Far Cry 5 | 145
−3.4%
|
150
+3.4%
|
Fortnite | 140−150
−114%
|
300−350
+114%
|
Forza Horizon 4 | 110
−302%
|
442
+302%
|
Forza Horizon 5 | 63
−256%
|
220−230
+256%
|
Grand Theft Auto V | 115
−51.3%
|
174
+51.3%
|
Metro Exodus | 66
−19.7%
|
79
+19.7%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 216
+0.5%
|
210−220
−0.5%
|
Red Dead Redemption 2 | 40
−288%
|
150−160
+288%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
−70.6%
|
170−180
+70.6%
|
Valorant | 65
−660%
|
450−500
+660%
|
World of Tanks | 270−280
−1.8%
|
270−280
+1.8%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 85−90
−31.5%
|
110−120
+31.5%
|
Counter-Strike 2 | 43
−249%
|
150
+249%
|
Cyberpunk 2077 | 38
−163%
|
100−105
+163%
|
Dota 2 | 197
−154%
|
500−550
+154%
|
Far Cry 5 | 85−90
−82.6%
|
150−160
+82.6%
|
Forza Horizon 4 | 95
−328%
|
407
+328%
|
Forza Horizon 5 | 59
−280%
|
220−230
+280%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−21.5%
|
210−220
+21.5%
|
Valorant | 115
−330%
|
450−500
+330%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 52
−198%
|
155
+198%
|
Grand Theft Auto V | 52
−198%
|
155
+198%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
−35.7%
|
170−180
+35.7%
|
Red Dead Redemption 2 | 25
−272%
|
90−95
+272%
|
World of Tanks | 190−200
−163%
|
500−550
+163%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60−65
−45%
|
85−90
+45%
|
Counter-Strike 2 | 26
−265%
|
95
+265%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−161%
|
60−65
+161%
|
Far Cry 5 | 90−95
−70.2%
|
160−170
+70.2%
|
Forza Horizon 4 | 67
−357%
|
306
+357%
|
Forza Horizon 5 | 40
−328%
|
170−180
+328%
|
Metro Exodus | 59
−141%
|
140−150
+141%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45−50
−231%
|
159
+231%
|
Valorant | 72
−467%
|
400−450
+467%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16
−125%
|
36
+125%
|
Dota 2 | 49
−271%
|
182
+271%
|
Grand Theft Auto V | 49
−271%
|
182
+271%
|
Metro Exodus | 20
−320%
|
84
+320%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 81
−158%
|
200−210
+158%
|
Red Dead Redemption 2 | 18−20
−237%
|
60−65
+237%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 49
−271%
|
182
+271%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−176%
|
90−95
+176%
|
Counter-Strike 2 | 27−30
−283%
|
110−120
+283%
|
Cyberpunk 2077 | 10
−170%
|
27−30
+170%
|
Dota 2 | 87
−164%
|
230−240
+164%
|
Far Cry 5 | 40−45
−150%
|
100−110
+150%
|
Fortnite | 40−45
−140%
|
95−100
+140%
|
Forza Horizon 4 | 36
−350%
|
162
+350%
|
Forza Horizon 5 | 22
−400%
|
110−120
+400%
|
Valorant | 38
−529%
|
230−240
+529%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 และ RTX 4070 Ti SUPER แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 169% ในความละเอียด 1080p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 208% ในความละเอียด 1440p
- RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 256% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1660 เร็วกว่า 0%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 4070 Ti SUPER เร็วกว่า 660%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
- RTX 4070 Ti SUPER เหนือกว่าใน 55การทดสอบ (98%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 30.34 | 82.63 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 มีนาคม 2019 | 8 มกราคม 2024 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 285 วัตต์ |
GTX 1660 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 137.5%
ในทางกลับกัน RTX 4070 Ti SUPER มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 172.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 4 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 140%
GeForce RTX 4070 Ti SUPER เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GTX 1660 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ