Radeon HD 7770 เทียบกับ GeForce GTX 1660 Ti
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ GeForce GTX 1660 Ti และ Radeon HD 7770 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
GTX 1660 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า HD 7770 อย่างมหาศาลถึง 495% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 165 | 612 |
จัดอันดับตามความนิยม | 27 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 43.36 | 1.45 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 19.19 | 4.84 |
สถาปัตยกรรม | Turing (2018−2022) | GCN 1.0 (2011−2020) |
ชื่อรหัส GPU | TU116 | Cape Verde |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 22 กุมภาพันธ์ 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 15 กุมภาพันธ์ 2012 (เมื่อ 13 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $279 | $159 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
GTX 1660 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า HD 7770 อยู่ 2890%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 640 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1500 MHz | 1000 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1770 MHz | ไม่มีข้อมูล |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,600 million | 1,500 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 12 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 80 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 169.9 | 40.00 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.437 TFLOPS | 1.28 TFLOPS |
ROPs | 48 | 16 |
TMUs | 96 | 40 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 229 mm | 210 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 1x 6-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 192 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1500 MHz | 1125 MHz |
288.0 จีบี/s | 72 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 1x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI, 2x mini-DisplayPort |
Eyefinity | - | + |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 (11_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 5.1 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | 7.5 | - |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 270−280
+474%
| 47
−474%
|
Full HD | 105
+123%
| 47
−123%
|
1440p | 60
+500%
| 10−12
−500%
|
4K | 39
+550%
| 6−7
−550%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.66
+27.3%
| 3.38
−27.3%
|
1440p | 4.65
+242%
| 15.90
−242%
|
4K | 7.15
+270%
| 26.50
−270%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 90−95
+600%
|
12−14
−600%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+458%
|
12−14
−458%
|
Cyberpunk 2077 | 78
+609%
|
10−12
−609%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 90−95
+600%
|
12−14
−600%
|
Battlefield 5 | 129
+486%
|
21−24
−486%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+458%
|
12−14
−458%
|
Cyberpunk 2077 | 71
+545%
|
10−12
−545%
|
Far Cry 5 | 109
+627%
|
14−16
−627%
|
Fortnite | 247
+672%
|
30−35
−672%
|
Forza Horizon 4 | 131
+446%
|
24−27
−446%
|
Forza Horizon 5 | 94
+683%
|
12−14
−683%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 200
+900%
|
20−22
−900%
|
Valorant | 190−200
+210%
|
60−65
−210%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 90−95
+600%
|
12−14
−600%
|
Battlefield 5 | 112
+409%
|
21−24
−409%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+458%
|
12−14
−458%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+115%
|
128
−115%
|
Cyberpunk 2077 | 57
+418%
|
10−12
−418%
|
Dota 2 | 181
+311%
|
40−45
−311%
|
Far Cry 5 | 99
+560%
|
14−16
−560%
|
Fortnite | 143
+347%
|
30−35
−347%
|
Forza Horizon 4 | 122
+408%
|
24−27
−408%
|
Forza Horizon 5 | 72
+500%
|
12−14
−500%
|
Grand Theft Auto V | 119
+561%
|
18−20
−561%
|
Metro Exodus | 55
+450%
|
10−11
−450%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150
+650%
|
20−22
−650%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 116
+729%
|
14−16
−729%
|
Valorant | 190−200
+210%
|
60−65
−210%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 102
+364%
|
21−24
−364%
|
Counter-Strike 2 | 65−70
+458%
|
12−14
−458%
|
Cyberpunk 2077 | 46
+318%
|
10−12
−318%
|
Dota 2 | 168
+282%
|
40−45
−282%
|
Far Cry 5 | 94
+527%
|
14−16
−527%
|
Forza Horizon 4 | 97
+304%
|
24−27
−304%
|
Forza Horizon 5 | 66
+450%
|
12−14
−450%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 129
+545%
|
20−22
−545%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 62
+343%
|
14−16
−343%
|
Valorant | 118
+87.3%
|
60−65
−87.3%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 117
+266%
|
30−35
−266%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
+286%
|
7−8
−286%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+427%
|
40−45
−427%
|
Grand Theft Auto V | 62
+933%
|
6−7
−933%
|
Metro Exodus | 33
+725%
|
4−5
−725%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+400%
|
35−40
−400%
|
Valorant | 230−240
+293%
|
55−60
−293%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 76
+1167%
|
6−7
−1167%
|
Cyberpunk 2077 | 27
+575%
|
4−5
−575%
|
Far Cry 5 | 67
+570%
|
10−11
−570%
|
Forza Horizon 4 | 77
+542%
|
12−14
−542%
|
Forza Horizon 5 | 47
+488%
|
8−9
−488%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 55−60
+588%
|
8−9
−588%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 75
+650%
|
10−11
−650%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 24−27
+525%
|
4−5
−525%
|
Counter-Strike 2 | 14−16 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 56
+229%
|
16−18
−229%
|
Metro Exodus | 21
+600%
|
3−4
−600%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+2050%
|
2−3
−2050%
|
Valorant | 180−190
+596%
|
27−30
−596%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
+1333%
|
3−4
−1333%
|
Counter-Strike 2 | 14−16 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 11
+450%
|
2−3
−450%
|
Dota 2 | 94
+422%
|
18−20
−422%
|
Far Cry 5 | 35
+600%
|
5−6
−600%
|
Forza Horizon 4 | 51
+629%
|
7−8
−629%
|
Forza Horizon 5 | 24
+700%
|
3−4
−700%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 39
+680%
|
5−6
−680%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 25
+400%
|
5−6
−400%
|
นี่คือวิธีที่ GTX 1660 Ti และ HD 7770 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 474% ในความละเอียด 900p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 123% ในความละเอียด 1080p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 500% ในความละเอียด 1440p
- GTX 1660 Ti เร็วกว่า 550% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ GTX 1660 Ti เร็วกว่า 2050%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น GTX 1660 Ti เหนือกว่า HD 7770 ในการทดสอบทั้ง 64 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 33.50 | 5.63 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 กุมภาพันธ์ 2019 | 15 กุมภาพันธ์ 2012 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 2 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 12 nm | 28 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 80 วัตต์ |
GTX 1660 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 495% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
ในทางกลับกัน HD 7770 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 50%
GeForce GTX 1660 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon HD 7770 ในการทดสอบประสิทธิภาพ