GeForce RTX 2080 เทียบกับ Radeon RX Vega M GH
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX Vega M GH กับ GeForce RTX 2080 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX Vega M GH อย่างมหาศาลถึง 185% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 332 | 71 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 26.60 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.71 | 15.53 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 22 | TU104 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 1 กุมภาพันธ์ 2018 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1536 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1063 MHz | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1190 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,000 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 114.2 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.656 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 64 | 64 |
TMUs | 96 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 368 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | IGP | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 1024 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 800 MHz | 1750 MHz |
204.8 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
HDMI | - | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
−144%
| 144
+144%
|
1440p | 38
−168%
| 102
+168%
|
4K | 28
−164%
| 74
+164%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 4.85 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 6.85 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 9.45 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
−239%
|
130−140
+239%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−174%
|
240−250
+174%
|
Cyberpunk 2077 | 39
−177%
|
100−110
+177%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
−239%
|
130−140
+239%
|
Battlefield 5 | 81
−101%
|
163
+101%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−174%
|
240−250
+174%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−260%
|
100−110
+260%
|
Far Cry 5 | 55−60
−113%
|
117
+113%
|
Fortnite | 85−90
−124%
|
199
+124%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−136%
|
156
+136%
|
Forza Horizon 5 | 47
−194%
|
130−140
+194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−254%
|
209
+254%
|
Valorant | 120−130
−105%
|
263
+105%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
−239%
|
130−140
+239%
|
Battlefield 5 | 66
−135%
|
155
+135%
|
Counter-Strike 2 | 90−95
−174%
|
240−250
+174%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 200−210
−33.7%
|
270−280
+33.7%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−370%
|
100−110
+370%
|
Dota 2 | 108
−38%
|
140−150
+38%
|
Far Cry 5 | 51
−120%
|
112
+120%
|
Fortnite | 85−90
−94.4%
|
173
+94.4%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−132%
|
153
+132%
|
Forza Horizon 5 | 35
−294%
|
130−140
+294%
|
Grand Theft Auto V | 60
−118%
|
131
+118%
|
Metro Exodus | 32
−181%
|
90
+181%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−219%
|
188
+219%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 60
−202%
|
181
+202%
|
Valorant | 120−130
−98.4%
|
254
+98.4%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 60
−142%
|
145
+142%
|
Cyberpunk 2077 | 23
−370%
|
100−110
+370%
|
Dota 2 | 95
−56.8%
|
140−150
+56.8%
|
Far Cry 5 | 47
−126%
|
106
+126%
|
Forza Horizon 4 | 65−70
−100%
|
132
+100%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 55−60
−186%
|
169
+186%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 34
−212%
|
106
+212%
|
Valorant | 120−130
−74.2%
|
223
+74.2%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 85−90
−75.3%
|
156
+75.3%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 30−35
−284%
|
120−130
+284%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 110−120
−166%
|
300−350
+166%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−262%
|
90−95
+262%
|
Metro Exodus | 20−22
−200%
|
60
+200%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 150−160
−12.9%
|
170−180
+12.9%
|
Valorant | 160−170
−54.4%
|
247
+54.4%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 43
−191%
|
125
+191%
|
Cyberpunk 2077 | 4
−1300%
|
55−60
+1300%
|
Far Cry 5 | 35−40
−175%
|
99
+175%
|
Forza Horizon 4 | 40−45
−195%
|
118
+195%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24−27
−246%
|
90−95
+246%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 35−40
−256%
|
128
+256%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 12−14
−185%
|
35−40
+185%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−331%
|
55−60
+331%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
−269%
|
107
+269%
|
Metro Exodus | 11
−255%
|
39
+255%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−230%
|
76
+230%
|
Valorant | 85−90
−163%
|
234
+163%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 21
−262%
|
76
+262%
|
Counter-Strike 2 | 12−14
−331%
|
55−60
+331%
|
Cyberpunk 2077 | 6−7
−333%
|
24−27
+333%
|
Dota 2 | 55−60
−114%
|
120−130
+114%
|
Far Cry 5 | 16−18
−247%
|
59
+247%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−189%
|
81
+189%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14−16
−360%
|
69
+360%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 16−18
−306%
|
65
+306%
|
นี่คือวิธีที่ RX Vega M GH และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 144% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 168% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 164% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 1300%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 เหนือกว่า RX Vega M GH ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.71 | 41.96 |
ความใหม่ล่าสุด | 1 กุมภาพันธ์ 2018 | 20 กันยายน 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 วัตต์ | 215 วัตต์ |
RX Vega M GH มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 115%
ในทางกลับกัน RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 185.2% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 เดือนและและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 16.7%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX Vega M GH ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX Vega M GH เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 2080 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป