Radeon RX 7600M เทียบกับ RX 7900 XTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7900 XTX กับ Radeon RX 7600M รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 7600M อย่างมหาศาลถึง 169% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 15 | 217 |
จัดอันดับตามความนิยม | 56 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 35.03 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.56 | 22.83 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 31 | Navi 33 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มกราคม 2023 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 1792 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1929 MHz | 1500 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2498 MHz | 2410 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 57,700 million | 13,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 Watt | 90 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 959.2 | 269.9 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 61.39 TFLOPS | 17.27 TFLOPS |
ROPs | 192 | 64 |
TMUs | 384 | 112 |
Ray Tracing Cores | 96 | 28 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | ไม่มีข้อมูล | large |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 287 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 2000 MHz |
960.0 จีบี/s | 256.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C | Portable Device Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.7 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.2 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 239
+181%
| 85
−181%
|
1440p | 161
+274%
| 43
−274%
|
4K | 101
+339%
| 23
−339%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.18 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.20 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.89 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 292
+349%
|
65−70
−349%
|
Counter-Strike 2 | 355
+120%
|
160−170
−120%
|
Cyberpunk 2077 | 250
+303%
|
60−65
−303%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 245
+195%
|
83
−195%
|
Battlefield 5 | 190−200
+77.6%
|
100−110
−77.6%
|
Counter-Strike 2 | 348
+112%
|
164
−112%
|
Cyberpunk 2077 | 240
+287%
|
60−65
−287%
|
Far Cry 5 | 212
+89.3%
|
112
−89.3%
|
Fortnite | 300−350
+129%
|
130−140
−129%
|
Forza Horizon 4 | 338
+205%
|
110−120
−205%
|
Forza Horizon 5 | 269
+206%
|
85−90
−206%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+57.1%
|
110−120
−57.1%
|
Valorant | 450−500
+150%
|
180−190
−150%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 229
+223%
|
71
−223%
|
Battlefield 5 | 190−200
+77.6%
|
100−110
−77.6%
|
Counter-Strike 2 | 339
+200%
|
113
−200%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+2.6%
|
270−280
−2.6%
|
Cyberpunk 2077 | 217
+250%
|
60−65
−250%
|
Dota 2 | 197
+50.4%
|
130−140
−50.4%
|
Far Cry 5 | 205
+86.4%
|
110
−86.4%
|
Fortnite | 300−350
+129%
|
130−140
−129%
|
Forza Horizon 4 | 330
+197%
|
110−120
−197%
|
Forza Horizon 5 | 254
+189%
|
85−90
−189%
|
Grand Theft Auto V | 175
+57.7%
|
111
−57.7%
|
Metro Exodus | 239
+273%
|
60−65
−273%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+57.1%
|
110−120
−57.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+295%
|
138
−295%
|
Valorant | 450−500
+150%
|
180−190
−150%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 253
+267%
|
69
−267%
|
Battlefield 5 | 190−200
+77.6%
|
100−110
−77.6%
|
Cyberpunk 2077 | 207
+234%
|
60−65
−234%
|
Dota 2 | 178
+35.9%
|
130−140
−35.9%
|
Far Cry 5 | 189
+83.5%
|
103
−83.5%
|
Forza Horizon 4 | 295
+166%
|
110−120
−166%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+57.1%
|
110−120
−57.1%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 298
+217%
|
94
−217%
|
Valorant | 450−500
+150%
|
180−190
−150%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+129%
|
130−140
−129%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 267
+331%
|
62
−331%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+163%
|
190−200
−163%
|
Grand Theft Auto V | 165
+211%
|
50−55
−211%
|
Metro Exodus | 161
+313%
|
35−40
−313%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+119%
|
220−230
−119%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 191
+306%
|
47
−306%
|
Battlefield 5 | 190−200
+155%
|
75−80
−155%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+403%
|
27−30
−403%
|
Far Cry 5 | 187
+183%
|
65−70
−183%
|
Forza Horizon 4 | 290
+287%
|
75−80
−287%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 238
+386%
|
45−50
−386%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+119%
|
65−70
−119%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 100−110
+435%
|
20−22
−435%
|
Counter-Strike 2 | 67
+347%
|
15
−347%
|
Grand Theft Auto V | 186
+238%
|
55−60
−238%
|
Metro Exodus | 108
+350%
|
24−27
−350%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 197
+358%
|
40−45
−358%
|
Valorant | 300−350
+97.6%
|
160−170
−97.6%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 103
+348%
|
23
−348%
|
Battlefield 5 | 130−140
+209%
|
40−45
−209%
|
Counter-Strike 2 | 43
+43.3%
|
30−33
−43.3%
|
Cyberpunk 2077 | 73
+462%
|
12−14
−462%
|
Dota 2 | 159
+78.7%
|
85−90
−78.7%
|
Far Cry 5 | 159
+368%
|
30−35
−368%
|
Forza Horizon 4 | 227
+354%
|
50−55
−354%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+200%
|
30−35
−200%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+147%
|
30−35
−147%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7900 XTX และ RX 7600M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 181% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 274% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 339% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 462%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 65การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 78.02 | 29.02 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 พฤศจิกายน 2022 | 4 มกราคม 2023 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 6 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 วัตต์ | 90 วัตต์ |
RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 168.8% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 20%
ในทางกลับกัน RX 7600M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 294.4%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 7600M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 7900 XTX เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ Radeon RX 7600M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก