Radeon 740M เทียบกับ RX 7900 XTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7900 XTX และ Radeon 740M โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า 740M อย่างมหาศาลถึง 884% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 12 | 557 |
จัดอันดับตามความนิยม | 59 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 33.29 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.77 | 12.65 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | RDNA 3.0 (2022−2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 31 | Phoenix2 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 31 มกราคม 2024 (เมื่อ 1 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 256 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1929 MHz | 800 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2498 MHz | 2800 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 57,700 million | 20,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 Watt | 45 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 959.2 | 44.80 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 61.39 TFLOPS | 2.867 TFLOPS |
ROPs | 192 | 8 |
TMUs | 384 | 16 |
Ray Tracing Cores | 96 | 4 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
ความยาว | 287 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | IGP |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | System Shared |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | System Shared |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | System Shared |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | System Shared |
960.0 จีบี/s | ไม่มีข้อมูล | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | + |
Resizable BAR | + | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C | Motherboard Dependent |
HDMI | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 2.1 |
Vulkan | 1.3 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 238
+1033%
| 21
−1033%
|
1440p | 158
+888%
| 16−18
−888%
|
4K | 100
+900%
| 10−12
−900%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.20 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 6.32 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 9.99 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 355
+386%
|
73
−386%
|
Cyberpunk 2077 | 250
+1567%
|
14−16
−1567%
|
HELLDIVERS 2 | 211
+1011%
|
19
−1011%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+462%
|
30−35
−462%
|
Counter-Strike 2 | 348
+480%
|
60
−480%
|
Cyberpunk 2077 | 240
+1500%
|
14−16
−1500%
|
Far Cry 5 | 212
+748%
|
24−27
−748%
|
Fortnite | 300−350
+543%
|
45−50
−543%
|
Forza Horizon 4 | 338
+894%
|
30−35
−894%
|
Forza Horizon 5 | 269
+1123%
|
21−24
−1123%
|
HELLDIVERS 2 | 203
+1253%
|
15
−1253%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+525%
|
27−30
−525%
|
Valorant | 450−500
+481%
|
75−80
−481%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+462%
|
30−35
−462%
|
Counter-Strike 2 | 339
+1204%
|
26
−1204%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+128%
|
120−130
−128%
|
Cyberpunk 2077 | 217
+1347%
|
14−16
−1347%
|
Dota 2 | 197
+994%
|
18−20
−994%
|
Far Cry 5 | 205
+720%
|
24−27
−720%
|
Fortnite | 300−350
+543%
|
45−50
−543%
|
Forza Horizon 4 | 330
+871%
|
30−35
−871%
|
Forza Horizon 5 | 254
+1055%
|
21−24
−1055%
|
Grand Theft Auto V | 175
+548%
|
27
−548%
|
HELLDIVERS 2 | 198
+1423%
|
13
−1423%
|
Metro Exodus | 239
+1493%
|
14−16
−1493%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+525%
|
27−30
−525%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+2625%
|
20−22
−2625%
|
Valorant | 450−500
+481%
|
75−80
−481%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+462%
|
30−35
−462%
|
Cyberpunk 2077 | 207
+1280%
|
14−16
−1280%
|
Dota 2 | 178
+889%
|
18−20
−889%
|
Far Cry 5 | 189
+656%
|
24−27
−656%
|
Forza Horizon 4 | 295
+768%
|
30−35
−768%
|
HELLDIVERS 2 | 197
+1542%
|
12
−1542%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+525%
|
27−30
−525%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 298
+1390%
|
20−22
−1390%
|
Valorant | 450−500
+481%
|
75−80
−481%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+543%
|
45−50
−543%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 267
+1807%
|
14−16
−1807%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+775%
|
55−60
−775%
|
Grand Theft Auto V | 165
+1550%
|
10−11
−1550%
|
Metro Exodus | 161
+1913%
|
8−9
−1913%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+317%
|
40−45
−317%
|
Valorant | 450−500
+451%
|
85−90
−451%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+1125%
|
16−18
−1125%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+2333%
|
6−7
−2333%
|
Far Cry 5 | 187
+1147%
|
14−16
−1147%
|
Forza Horizon 4 | 290
+1511%
|
18−20
−1511%
|
HELLDIVERS 2 | 154
+1440%
|
10−11
−1440%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 238
+2280%
|
10−11
−2280%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+844%
|
16−18
−844%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 67 | 0−1 |
Grand Theft Auto V | 186
+879%
|
18−20
−879%
|
HELLDIVERS 2 | 53
+657%
|
7−8
−657%
|
Metro Exodus | 108
+3500%
|
3−4
−3500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 197
+2714%
|
7−8
−2714%
|
Valorant | 300−350
+728%
|
40−45
−728%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+1600%
|
8−9
−1600%
|
Counter-Strike 2 | 43 | 0−1 |
Cyberpunk 2077 | 73
+3550%
|
2−3
−3550%
|
Dota 2 | 159
+894%
|
16−18
−894%
|
Far Cry 5 | 159
+2171%
|
7−8
−2171%
|
Forza Horizon 4 | 227
+1792%
|
12−14
−1792%
|
HELLDIVERS 2 | 83
+1086%
|
7−8
−1086%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+1271%
|
7−8
−1271%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+1029%
|
7−8
−1029%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7900 XTX และ Radeon 740M แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 1033% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 888% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 900% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 3550%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RX 7900 XTX เหนือกว่า Radeon 740M ในการทดสอบทั้ง 61 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 74.65 | 7.59 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 พฤศจิกายน 2022 | 31 มกราคม 2024 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 5 nm | 4 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 วัตต์ | 45 วัตต์ |
RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 883.5%
ในทางกลับกัน Radeon 740M มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 25%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 688.9%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon 740M ในการทดสอบประสิทธิภาพ