GeForce RTX 5060 Ti เทียบกับ Radeon RX 7900 XTX
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 7900 XTX และ GeForce RTX 5060 Ti โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 7900 XTX มีประสิทธิภาพดีกว่า RTX 5060 Ti อย่างมหาศาล 38% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 11 | 51 |
จัดอันดับตามความนิยม | 68 | 52 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 41.66 | 83.32 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 15.93 | 22.79 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 3.0 (2022−2025) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 31 | GB206 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 3 พฤศจิกายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 16 เมษายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $999 | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 7900 XTX อยู่ 100%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 6144 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1929 MHz | 2407 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2498 MHz | 2572 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 57,700 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 5 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 959.2 | 370.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 61.39 TFLOPS | 23.7 TFLOPS |
ROPs | 192 | 48 |
TMUs | 384 | 144 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 144 |
Ray Tracing Cores | 96 | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | 287 mm | 241 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 2x 8-pin | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2500 MHz | 1750 MHz |
960.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI 2.1a, 2x DisplayPort 2.1, 1x USB Type-C | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.7 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.2 | 3.0 |
Vulkan | 1.3 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 240
+40.4%
| 171
−40.4%
|
1440p | 159
+91.6%
| 83
−91.6%
|
4K | 100
+88.7%
| 53
−88.7%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 4.16
−87.8%
| 2.22
+87.8%
|
1440p | 6.28
−37.6%
| 4.57
+37.6%
|
4K | 9.99
−39.7%
| 7.15
+39.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 355
+27.2%
|
270−280
−27.2%
|
Cyberpunk 2077 | 250
+86.6%
|
130−140
−86.6%
|
Sons of the Forest | 133
+22%
|
100−110
−22%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 190−200
+20.1%
|
150−160
−20.1%
|
Counter-Strike 2 | 348
+24.7%
|
270−280
−24.7%
|
Cyberpunk 2077 | 240
+79.1%
|
130−140
−79.1%
|
Far Cry 5 | 212
−27.4%
|
270
+27.4%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 338
+60.2%
|
210−220
−60.2%
|
Forza Horizon 5 | 269
+63%
|
160−170
−63%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Sons of the Forest | 129
+18.3%
|
100−110
−18.3%
|
Valorant | 450−500
+53.5%
|
290−300
−53.5%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 190−200
+20.1%
|
150−160
−20.1%
|
Counter-Strike 2 | 339
+21.5%
|
270−280
−21.5%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+0%
|
270−280
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 217
+61.9%
|
130−140
−61.9%
|
Dota 2 | 197
+40.7%
|
140−150
−40.7%
|
Far Cry 5 | 205
−21%
|
248
+21%
|
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
Forza Horizon 4 | 330
+56.4%
|
210−220
−56.4%
|
Forza Horizon 5 | 254
+53.9%
|
160−170
−53.9%
|
Grand Theft Auto V | 175
+11.5%
|
150−160
−11.5%
|
Metro Exodus | 239
+74.5%
|
130−140
−74.5%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Sons of the Forest | 124
+13.8%
|
100−110
−13.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 545
+64.2%
|
332
−64.2%
|
Valorant | 450−500
+53.5%
|
290−300
−53.5%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+20.1%
|
150−160
−20.1%
|
Cyberpunk 2077 | 207
+54.5%
|
130−140
−54.5%
|
Dota 2 | 178
+48.3%
|
120−130
−48.3%
|
Far Cry 5 | 189
−22.8%
|
232
+22.8%
|
Forza Horizon 4 | 295
+39.8%
|
210−220
−39.8%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Sons of the Forest | 123
+12.8%
|
100−110
−12.8%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 298
+88.6%
|
158
−88.6%
|
Valorant | 450−500
+53.5%
|
290−300
−53.5%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 300−350
+23.8%
|
240−250
−23.8%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 267
+71.2%
|
150−160
−71.2%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 500−550
+29.6%
|
350−400
−29.6%
|
Grand Theft Auto V | 165
+43.5%
|
110−120
−43.5%
|
Metro Exodus | 161
+85.1%
|
85−90
−85.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 450−500
+41.8%
|
300−350
−41.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 190−200
+47.4%
|
130−140
−47.4%
|
Cyberpunk 2077 | 146
+100%
|
70−75
−100%
|
Far Cry 5 | 187
+16.1%
|
161
−16.1%
|
Forza Horizon 4 | 290
+67.6%
|
170−180
−67.6%
|
Sons of the Forest | 118
+35.6%
|
85−90
−35.6%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 238
+100%
|
119
−100%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 150−160
+0%
|
150−160
+0%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 67
−4.5%
|
70−75
+4.5%
|
Grand Theft Auto V | 186
+44.2%
|
120−130
−44.2%
|
Metro Exodus | 108
+96.4%
|
55−60
−96.4%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 197
+95%
|
101
−95%
|
Valorant | 300−350
+6.8%
|
300−350
−6.8%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 130−140
+46.2%
|
90−95
−46.2%
|
Counter-Strike 2 | 43
−62.8%
|
70−75
+62.8%
|
Cyberpunk 2077 | 73
+115%
|
30−35
−115%
|
Dota 2 | 159
+44.5%
|
110−120
−44.5%
|
Far Cry 5 | 159
+89.3%
|
84
−89.3%
|
Forza Horizon 4 | 227
+83.1%
|
120−130
−83.1%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 95−100
+1.1%
|
95−100
−1.1%
|
Sons of the Forest | 103
+83.9%
|
55−60
−83.9%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 75−80
+0%
|
75−80
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 7900 XTX และ RTX 5060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 40% ในความละเอียด 1080p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 92% ในความละเอียด 1440p
- RX 7900 XTX เร็วกว่า 89% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Cyberpunk 2077 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 7900 XTX เร็วกว่า 115%
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 63%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 7900 XTX เหนือกว่าใน 50การทดสอบ (81%)
- RTX 5060 Ti เหนือกว่าใน 5การทดสอบ (8%)
- เสมอกันใน 7การทดสอบ (11%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 72.36 | 52.49 |
ความใหม่ล่าสุด | 3 พฤศจิกายน 2022 | 16 เมษายน 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 24 จีบี | 8 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 355 วัตต์ | 180 วัตต์ |
RX 7900 XTX มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 37.9% และ
ในทางกลับกัน RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 97.2%
Radeon RX 7900 XTX เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce RTX 5060 Ti ในการทดสอบประสิทธิภาพ