Radeon RX 6950 XT เทียบกับ RX 580
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 และ Radeon RX 6950 XT โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 6950 XT มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 อย่างมหาศาลถึง 218% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 246 | 16 |
จัดอันดับตามความนิยม | 1 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 18.07 | 27.23 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 8.58 | 15.07 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | RDNA 2.0 (2020−2024) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | Navi 21 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 10 พฤษภาคม 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $229 | $1,099 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 6950 XT มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 อยู่ 51%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 5120 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1257 MHz | 1925 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1340 MHz | 2324 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 26,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 Watt | 335 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 193.0 | 743.7 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 6.175 TFLOPS | 23.8 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 144 | 320 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 80 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 4.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 3-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 8-pin | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 2250 MHz |
256.0 จีบี/s | 576.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x HDMI 2.1, 2x DisplayPort 1.4a |
HDMI | + | + |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.1 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 96
−130%
| 221
+130%
|
1440p | 44
−205%
| 134
+205%
|
4K | 38
−126%
| 86
+126%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.39
+108%
| 4.97
−108%
|
1440p | 5.20
+57.6%
| 8.20
−57.6%
|
4K | 6.03
+112%
| 12.78
−112%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 40−45
−386%
|
204
+386%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−250%
|
161
+250%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 80
−46.3%
|
110−120
+46.3%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−371%
|
198
+371%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−54.3%
|
71
+54.3%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−405%
|
500
+405%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−139%
|
146
+139%
|
Metro Exodus | 83
−83.1%
|
152
+83.1%
|
Red Dead Redemption 2 | 50−55
−163%
|
130−140
+163%
|
Valorant | 90−95
−314%
|
350−400
+314%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 117
+0%
|
110−120
+0%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−300%
|
168
+300%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−39.1%
|
64
+39.1%
|
Dota 2 | 51
−255%
|
181
+255%
|
Far Cry 5 | 70−75
−35.6%
|
99
+35.6%
|
Fortnite | 110−120
−147%
|
290−300
+147%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−346%
|
442
+346%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−213%
|
190−200
+213%
|
Grand Theft Auto V | 77
−123%
|
172
+123%
|
Metro Exodus | 57
−156%
|
146
+156%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 202
−6.4%
|
210−220
+6.4%
|
Red Dead Redemption 2 | 50−55
−163%
|
130−140
+163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70−75
−135%
|
170−180
+135%
|
Valorant | 90−95
−314%
|
350−400
+314%
|
World of Tanks | 240−250
−12%
|
270−280
+12%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
−72.1%
|
110−120
+72.1%
|
Counter-Strike 2 | 40−45
−264%
|
153
+264%
|
Cyberpunk 2077 | 45−50
−32.6%
|
61
+32.6%
|
Dota 2 | 80−85
−109%
|
167
+109%
|
Far Cry 5 | 70−75
−87.7%
|
130−140
+87.7%
|
Forza Horizon 4 | 95−100
−300%
|
396
+300%
|
Forza Horizon 5 | 60−65
−126%
|
138
+126%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 70
−207%
|
210−220
+207%
|
Valorant | 90−95
−314%
|
350−400
+314%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 35−40
−303%
|
153
+303%
|
Grand Theft Auto V | 35−40
−303%
|
153
+303%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
−0.6%
|
170−180
+0.6%
|
Red Dead Redemption 2 | 21−24
−343%
|
90−95
+343%
|
World of Tanks | 150−160
−235%
|
500−550
+235%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 45−50
−85.1%
|
85−90
+85.1%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
−203%
|
97
+203%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
−147%
|
47
+147%
|
Far Cry 5 | 65−70
−146%
|
160−170
+146%
|
Forza Horizon 4 | 60−65
−382%
|
294
+382%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−286%
|
140−150
+286%
|
Metro Exodus | 53
−149%
|
132
+149%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−400%
|
160−170
+400%
|
Valorant | 60−65
−439%
|
300−350
+439%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 20−22
−190%
|
58
+190%
|
Dota 2 | 57
−205%
|
174
+205%
|
Grand Theft Auto V | 57
−205%
|
174
+205%
|
Metro Exodus | 18
−328%
|
77
+328%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 73
−186%
|
200−210
+186%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
−327%
|
60−65
+327%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 57
−205%
|
174
+205%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 28
−225%
|
90−95
+225%
|
Counter-Strike 2 | 20−22
−365%
|
90−95
+365%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−229%
|
23
+229%
|
Dota 2 | 35−40
−262%
|
141
+262%
|
Far Cry 5 | 30−33
−250%
|
100−110
+250%
|
Fortnite | 31
−210%
|
95−100
+210%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−391%
|
172
+391%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
−374%
|
90−95
+374%
|
Valorant | 27−30
−559%
|
190−200
+559%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 และ RX 6950 XT แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 6950 XT เร็วกว่า 130% ในความละเอียด 1080p
- RX 6950 XT เร็วกว่า 205% ในความละเอียด 1440p
- RX 6950 XT เร็วกว่า 126% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 6950 XT เร็วกว่า 559%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 6950 XT เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 23.02 | 73.21 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 10 พฤษภาคม 2022 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 7 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 185 วัตต์ | 335 วัตต์ |
RX 580 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 81.1%
ในทางกลับกัน RX 6950 XT มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 218% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 100%
Radeon RX 6950 XT เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ