GeForce RTX 5060 Ti เทียบกับ Radeon RX 580 มือถือ
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 580 มือถือ กับ GeForce RTX 5060 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5060 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 580 มือถือ อย่างมหาศาลถึง 199% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 326 | 54 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 83 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 22.71 | 83.66 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 13.58 | 22.60 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GB206 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 16 เมษายน 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $301.69 | $379 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 5060 Ti มีความคุ้มค่ามากกว่า RX 580 มือถือ อยู่ 268%
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2304 | 4608 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1000 MHz | 2407 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1077 MHz | 2572 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 21,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 Watt | 180 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 155.1 | 370.4 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.963 TFLOPS | 23.7 TFLOPS |
ROPs | 32 | 48 |
TMUs | 144 | 144 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 144 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 36 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | MXM-B (3.0) | PCIe 5.0 x8 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 241 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 128 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1750 MHz |
256.0 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 77
−118%
| 168
+118%
|
1440p | 27−30
−204%
| 82
+204%
|
4K | 30
−73.3%
| 52
+73.3%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 3.92
−73.7%
| 2.26
+73.7%
|
1440p | 11.17
−142%
| 4.62
+142%
|
4K | 10.06
−38%
| 7.29
+38%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 100−110
−163%
|
270−280
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−244%
|
130−140
+244%
|
Dead Island 2 | 70−75
−238%
|
250−260
+238%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−163%
|
270−280
+163%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−244%
|
130−140
+244%
|
Dead Island 2 | 70−75
−238%
|
250−260
+238%
|
Far Cry 5 | 60−65
−343%
|
270
+343%
|
Fortnite | 183
−33.3%
|
240−250
+33.3%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−176%
|
210−220
+176%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−184%
|
160−170
+184%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
−154%
|
170−180
+154%
|
Valorant | 140−150
−114%
|
290−300
+114%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Counter-Strike 2 | 100−110
−163%
|
270−280
+163%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 220−230
−23%
|
270−280
+23%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−244%
|
130−140
+244%
|
Dead Island 2 | 70−75
−238%
|
250−260
+238%
|
Dota 2 | 76
−189%
|
220−230
+189%
|
Far Cry 5 | 60−65
−307%
|
248
+307%
|
Fortnite | 81
−201%
|
240−250
+201%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−176%
|
210−220
+176%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
−184%
|
160−170
+184%
|
Grand Theft Auto V | 62
−153%
|
150−160
+153%
|
Metro Exodus | 35−40
−251%
|
130−140
+251%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 57
−207%
|
170−180
+207%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 68
−388%
|
332
+388%
|
Valorant | 140−150
−114%
|
290−300
+114%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 75−80
−106%
|
150−160
+106%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
−244%
|
130−140
+244%
|
Dead Island 2 | 70−75
−238%
|
250−260
+238%
|
Dota 2 | 69
−190%
|
200−210
+190%
|
Far Cry 5 | 60−65
−280%
|
232
+280%
|
Forza Horizon 4 | 75−80
−176%
|
210−220
+176%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 41
−327%
|
170−180
+327%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 37
−327%
|
158
+327%
|
Valorant | 140−150
−114%
|
290−300
+114%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 60
−307%
|
240−250
+307%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 35−40
−308%
|
150−160
+308%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 130−140
−197%
|
350−400
+197%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−274%
|
110−120
+274%
|
Metro Exodus | 24−27
−263%
|
85−90
+263%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
−3.6%
|
170−180
+3.6%
|
Valorant | 170−180
−93.8%
|
300−350
+93.8%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−156%
|
130−140
+156%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
−324%
|
70−75
+324%
|
Dead Island 2 | 30−35
−309%
|
130−140
+309%
|
Far Cry 5 | 40−45
−293%
|
161
+293%
|
Forza Horizon 4 | 45−50
−276%
|
170−180
+276%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
−325%
|
119
+325%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 40−45
−257%
|
150−160
+257%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 16−18
−344%
|
70−75
+344%
|
Dead Island 2 | 18−20
−178%
|
50−55
+178%
|
Grand Theft Auto V | 30−35
−297%
|
130−140
+297%
|
Metro Exodus | 14−16
−267%
|
55−60
+267%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 24
−321%
|
101
+321%
|
Valorant | 100−110
−198%
|
300−350
+198%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 27−30
−232%
|
90−95
+232%
|
Counter-Strike 2 | 16−18
−344%
|
70−75
+344%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
−386%
|
30−35
+386%
|
Dead Island 2 | 18−20
−217%
|
55−60
+217%
|
Dota 2 | 60−65
−197%
|
190−200
+197%
|
Far Cry 5 | 21−24
−300%
|
84
+300%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−288%
|
120−130
+288%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 14
−586%
|
95−100
+586%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 18−20
−316%
|
75−80
+316%
|
นี่คือวิธีที่ RX 580 มือถือ และ RTX 5060 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 118% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 204% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5060 Ti เร็วกว่า 73% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RTX 5060 Ti เร็วกว่า 586%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5060 Ti เหนือกว่า RX 580 มือถือ ในการทดสอบทั้ง 62 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.11 | 54.23 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 16 เมษายน 2025 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 100 วัตต์ | 180 วัตต์ |
RX 580 มือถือ มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 80%
ในทางกลับกัน RTX 5060 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 199.4% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 7 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 5060 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 580 มือถือ ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 580 มือถือ เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ GeForce RTX 5060 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป