GeForce MX350 เทียบกับ Radeon RX 570
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 570 กับ GeForce MX350 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 570 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX350 อย่างมหาศาลถึง 148% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 315 | 547 |
จัดอันดับตามความนิยม | 16 | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 15.08 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 10.36 | 25.06 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Polaris 20 | GP107 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 18 เมษายน 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) | 10 กุมภาพันธ์ 2020 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $169 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 640 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1168 MHz | 747 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1244 MHz | 937 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 3,300 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 20 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 159.2 | 29.98 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 5.095 TFLOPS | 1.199 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 32 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 241 mm | ไม่มีข้อมูล |
ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 1752 MHz |
224.0 จีบี/s | 56.06 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 3x DisplayPort | No outputs |
HDMI | + | - |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | + | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 OpenCL
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ OpenCL API โดย Khronos Group
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
GeekBench 5 Vulkan
Geekbench 5 เป็นการทดสอบกราฟิกการ์ดที่แพร่หลาย ประกอบไปด้วยสถานการณ์การทดสอบทั้งหมด 11 รูปแบบ แต่ละรูปแบบอาศัยการประมวลผลของ GPU โดยตรง โดยไม่มีการเรนเดอร์ 3 มิติ การทดสอบนี้ใช้ Vulkan API โดย AMD & Khronos Group
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 85
+215%
| 27
−215%
|
1440p | 48
+54.8%
| 31
−54.8%
|
4K | 30
+15.4%
| 26
−15.4%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 1.99 | ไม่มีข้อมูล |
1440p | 3.52 | ไม่มีข้อมูล |
4K | 5.63 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 40−45
+41.9%
|
31
−41.9%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+121%
|
14
−121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+125%
|
16
−125%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 40−45
+83.3%
|
24
−83.3%
|
Battlefield 5 | 88
+138%
|
37
−138%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+182%
|
11
−182%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+227%
|
11
−227%
|
Far Cry 5 | 77
+185%
|
27
−185%
|
Fortnite | 238
+190%
|
82
−190%
|
Forza Horizon 4 | 100
+170%
|
37
−170%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+124%
|
21
−124%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 96
+284%
|
24−27
−284%
|
Valorant | 130−140
+3.1%
|
129
−3.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 40−45
+529%
|
7
−529%
|
Battlefield 5 | 75
+150%
|
30
−150%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 210−220
+80%
|
120
−80%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+500%
|
6
−500%
|
Dota 2 | 100−110
+21.7%
|
83
−21.7%
|
Far Cry 5 | 70
+204%
|
23
−204%
|
Fortnite | 95
+121%
|
43
−121%
|
Forza Horizon 4 | 94
+262%
|
26
−262%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+194%
|
16−18
−194%
|
Grand Theft Auto V | 73
+109%
|
35
−109%
|
Metro Exodus | 43
+258%
|
12
−258%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 87
+248%
|
24−27
−248%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 77
+185%
|
27
−185%
|
Valorant | 130−140
+14.7%
|
116
−14.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 68
+183%
|
24
−183%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+121%
|
14−16
−121%
|
Cyberpunk 2077 | 35−40
+620%
|
5
−620%
|
Dota 2 | 100−110
+32.9%
|
76
−32.9%
|
Far Cry 5 | 65
+210%
|
21
−210%
|
Forza Horizon 4 | 75
+295%
|
19
−295%
|
Forza Horizon 5 | 45−50
+194%
|
16−18
−194%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 69
+176%
|
24−27
−176%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 43
+169%
|
16
−169%
|
Valorant | 130−140
+79.7%
|
70−75
−79.7%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 72
+167%
|
27
−167%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 18−20
+171%
|
7−8
−171%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 120−130
+134%
|
50−55
−134%
|
Grand Theft Auto V | 27−30
+211%
|
9−10
−211%
|
Metro Exodus | 25
+317%
|
6−7
−317%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 160−170
+323%
|
35−40
−323%
|
Valorant | 160−170
+114%
|
75−80
−114%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 52
+300%
|
12−14
−300%
|
Cyberpunk 2077 | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Far Cry 5 | 46
+229%
|
14−16
−229%
|
Forza Horizon 4 | 59
+269%
|
16−18
−269%
|
Forza Horizon 5 | 30−35
+182%
|
10−12
−182%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+145%
|
10−12
−145%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45
+221%
|
14−16
−221%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 14−16
+133%
|
6−7
−133%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+700%
|
1−2
−700%
|
Grand Theft Auto V | 30
+66.7%
|
18−20
−66.7%
|
Metro Exodus | 16
+700%
|
2−3
−700%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 28
+460%
|
5−6
−460%
|
Valorant | 95−100
+171%
|
35−40
−171%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 31
+417%
|
6−7
−417%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
+700%
|
1−2
−700%
|
Cyberpunk 2077 | 7−8
+250%
|
2−3
−250%
|
Dota 2 | 55−60
+96.7%
|
30
−96.7%
|
Far Cry 5 | 24
+243%
|
7−8
−243%
|
Forza Horizon 4 | 39
+255%
|
10−12
−255%
|
Forza Horizon 5 | 14−16
+275%
|
4−5
−275%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 27
+286%
|
7−8
−286%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 23
+229%
|
7−8
−229%
|
1440p
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
นี่คือวิธีที่ RX 570 และ GeForce MX350 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เร็วกว่า 215% ในความละเอียด 1080p
- RX 570 เร็วกว่า 55% ในความละเอียด 1440p
- RX 570 เร็วกว่า 15% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RX 570 เร็วกว่า 700%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 570 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 18.08 | 7.29 |
ความใหม่ล่าสุด | 18 เมษายน 2017 | 10 กุมภาพันธ์ 2020 |
จำนวน RAM สูงสุด | 8 จีบี | 2 จีบี |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 20 วัตต์ |
RX 570 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 148% และ
ในทางกลับกัน GeForce MX350 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 2 ปี และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 500%
Radeon RX 570 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX350 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 570 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป ในขณะที่ GeForce MX350 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก