Radeon RX 9070 เทียบกับ RX 5500M
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 5500M กับ Radeon RX 9070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RX 9070 มีประสิทธิภาพดีกว่า RX 5500M อย่างมหาศาลถึง 328% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 383 | 41 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 62.16 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.09 | 19.98 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 1.0 (2019−2020) | RDNA 4.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Navi 14 | Navi 48 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 7 ตุลาคม 2019 (เมื่อ 5 ปี ปีที่แล้ว) | 6 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1408 | 3584 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 1375 MHz | 1330 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1645 MHz | 2520 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 6,400 million | 53,900 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 Watt | 220 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 144.8 | 564.5 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.632 TFLOPS | 36.13 TFLOPS |
ROPs | 32 | 128 |
TMUs | 88 | 224 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 112 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 56 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | medium sized | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x8 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 267 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | None | 2x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 128 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1750 MHz | 2518 MHz |
224.0 จีบี/s | 644.6 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1a |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 2.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.3 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 57
−244%
| 196
+244%
|
1440p | 60
−98.3%
| 119
+98.3%
|
4K | 30
−150%
| 75
+150%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.80 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.61 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 7.32 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Baldur's Gate 3 | 52
−498%
|
311
+498%
|
Counter-Strike 2 | 53
−464%
|
290−300
+464%
|
Cyberpunk 2077 | 55
−169%
|
140−150
+169%
|
Full HD
Medium Preset
Baldur's Gate 3 | 43
−467%
|
244
+467%
|
Battlefield 5 | 60−65
−174%
|
160−170
+174%
|
Counter-Strike 2 | 53
−464%
|
290−300
+464%
|
Cyberpunk 2077 | 43
−244%
|
140−150
+244%
|
Far Cry 5 | 45−50
−523%
|
293
+523%
|
Fortnite | 80−85
−250%
|
280−290
+250%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−293%
|
230−240
+293%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−307%
|
170−180
+307%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
−238%
|
170−180
+238%
|
Valorant | 146
−126%
|
300−350
+126%
|
Full HD
High Preset
Baldur's Gate 3 | 36
−481%
|
209
+481%
|
Battlefield 5 | 93
−79.6%
|
160−170
+79.6%
|
Counter-Strike 2 | 48
−523%
|
290−300
+523%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 191
−45.5%
|
270−280
+45.5%
|
Cyberpunk 2077 | 33
−348%
|
140−150
+348%
|
Dota 2 | 106
−325%
|
450−500
+325%
|
Far Cry 5 | 62
−358%
|
284
+358%
|
Fortnite | 80−85
−250%
|
280−290
+250%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−293%
|
230−240
+293%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−307%
|
170−180
+307%
|
Grand Theft Auto V | 79
−106%
|
160−170
+106%
|
Metro Exodus | 39
−287%
|
150−160
+287%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50−55
−238%
|
170−180
+238%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 72
−515%
|
443
+515%
|
Valorant | 144
−129%
|
300−350
+129%
|
Full HD
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 35
−483%
|
204
+483%
|
Battlefield 5 | 75
−123%
|
160−170
+123%
|
Cyberpunk 2077 | 30
−393%
|
140−150
+393%
|
Dota 2 | 103
−288%
|
400−450
+288%
|
Far Cry 5 | 59
−356%
|
269
+356%
|
Forza Horizon 4 | 55−60
−293%
|
230−240
+293%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 59
−198%
|
170−180
+198%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 45
−456%
|
250
+456%
|
Valorant | 110−120
−180%
|
300−350
+180%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65
−331%
|
280−290
+331%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 27−30
−552%
|
170−180
+552%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 137
−226%
|
400−450
+226%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−477%
|
120−130
+477%
|
Metro Exodus | 25
−292%
|
95−100
+292%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 175
+0%
|
170−180
+0%
|
Valorant | 136
−185%
|
350−400
+185%
|
1440p
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 18−20
−717%
|
147
+717%
|
Battlefield 5 | 44
−234%
|
140−150
+234%
|
Cyberpunk 2077 | 12−14
−531%
|
80−85
+531%
|
Far Cry 5 | 48
−408%
|
244
+408%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
−460%
|
190−200
+460%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 21−24
−810%
|
191
+810%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 30−35
−387%
|
150−160
+387%
|
4K
High Preset
Baldur's Gate 3 | 7−8
−871%
|
65−70
+871%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−690%
|
75−80
+690%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 76
−295%
|
300−310
+295%
|
Grand Theft Auto V | 20
−625%
|
140−150
+625%
|
Metro Exodus | 10−11
−520%
|
60−65
+520%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 18−20
−774%
|
166
+774%
|
Valorant | 129
−151%
|
300−350
+151%
|
4K
Ultra Preset
Baldur's Gate 3 | 7−8
−1029%
|
79
+1029%
|
Battlefield 5 | 16
−556%
|
100−110
+556%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−690%
|
75−80
+690%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−680%
|
35−40
+680%
|
Dota 2 | 53
−315%
|
220−230
+315%
|
Far Cry 5 | 14−16
−793%
|
134
+793%
|
Forza Horizon 4 | 24−27
−484%
|
140−150
+484%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−638%
|
95−100
+638%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 14−16
−464%
|
75−80
+464%
|
นี่คือวิธีที่ RX 5500M และ RX 9070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เร็วกว่า 244% ในความละเอียด 1080p
- RX 9070 เร็วกว่า 98% ในความละเอียด 1440p
- RX 9070 เร็วกว่า 150% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Baldur's Gate 3 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 9070 เร็วกว่า 1029%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 9070 เหนือกว่าใน 62การทดสอบ (98%)
- เสมอกันใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 14.52 | 62.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 7 ตุลาคม 2019 | 6 มีนาคม 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 85 วัตต์ | 220 วัตต์ |
RX 5500M มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 158.8%
ในทางกลับกัน RX 9070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 327.6% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 5 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 40%
Radeon RX 9070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon RX 5500M ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon RX 5500M เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก ในขณะที่ Radeon RX 9070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป