GeForce GT 1030 เทียบกับ Radeon RX 470
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon RX 470 และ GeForce GT 1030 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RX 470 มีประสิทธิภาพดีกว่า GT 1030 อย่างมหาศาลถึง 230% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 272 | 585 |
จัดอันดับตามความนิยม | 42 | 24 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 17.78 | 2.31 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 12.08 | 14.64 |
สถาปัตยกรรม | GCN 4.0 (2016−2020) | Pascal (2016−2021) |
ชื่อรหัส GPU | Ellesmere | GP108 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 4 สิงหาคม 2016 (เมื่อ 8 ปี ปีที่แล้ว) | 17 พฤษภาคม 2017 (เมื่อ 7 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $179 | $79 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RX 470 มีความคุ้มค่ามากกว่า GT 1030 อยู่ 670%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 384 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 926 MHz | 1228 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1206 MHz | 1468 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 5,700 million | 1,800 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 Watt | 30 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 154.4 | 35.23 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 4.94 TFLOPS | 1.127 TFLOPS |
ROPs | 32 | 16 |
TMUs | 128 | 24 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x4 |
ความยาว | 241 mm | 145 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 1-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR5 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 4 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1650 MHz | 1502 MHz |
211.2 จีบี/s | 48.06 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x HDMI, 3x DisplayPort | 1x DVI, 1x HDMI |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
FreeSync | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_0) | 12 (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.4 | 6.4 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 1.2 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.2.131 |
CUDA | - | 6.1 |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
3DMark Ice Storm GPU
Ice Storm Graphics เป็นการทดสอบล้าสมัยในชุดการทดสอบ 3DMark ซึ่งเคยใช้วัดประสิทธิภาพของแล็ปท็อประดับเริ่มต้นและแท็บเล็ต Windows ใช้คุณสมบัติของ DirectX 11 ระดับ 9 ในการแสดงฉากต่อสู้ระหว่างยานอวกาศสองกองใกล้กับดาวเคราะห์น้ำแข็งที่ความละเอียด 1280x720 ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 69
+176%
| 25
−176%
|
1440p | 38
+52%
| 25
−52%
|
4K | 37
+270%
| 10
−270%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 2.59
+21.8%
| 3.16
−21.8%
|
1440p | 4.71
−49.1%
| 3.16
+49.1%
|
4K | 4.84
+63.3%
| 7.90
−63.3%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 50−55
+253%
|
14−16
−253%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+180%
|
15
−180%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 50−55
+253%
|
14−16
−253%
|
Battlefield 5 | 80−85
+161%
|
31
−161%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+282%
|
11
−282%
|
Far Cry 5 | 65−70
+253%
|
19
−253%
|
Fortnite | 100−110
+119%
|
47
−119%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+196%
|
27
−196%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+224%
|
17
−224%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 71
+154%
|
28
−154%
|
Valorant | 140−150
−4.1%
|
152
+4.1%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 50−55
+253%
|
14−16
−253%
|
Battlefield 5 | 80−85
+212%
|
26
−212%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 230−240
+137%
|
95−100
−137%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+500%
|
7
−500%
|
Dota 2 | 110−120
+124%
|
45−50
−124%
|
Far Cry 5 | 65−70
+294%
|
17
−294%
|
Fortnite | 88
+144%
|
36
−144%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+233%
|
24
−233%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+293%
|
14
−293%
|
Grand Theft Auto V | 73
+152%
|
29
−152%
|
Metro Exodus | 40−45
+514%
|
7
−514%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 50
+108%
|
24
−108%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 70
+233%
|
21
−233%
|
Valorant | 140−150
+18.7%
|
123
−18.7%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 80−85
+305%
|
20
−305%
|
Counter-Strike 2 | 35−40
+185%
|
12−14
−185%
|
Cyberpunk 2077 | 40−45
+250%
|
12−14
−250%
|
Dota 2 | 110−120
+124%
|
45−50
−124%
|
Far Cry 5 | 61
+307%
|
15
−307%
|
Forza Horizon 4 | 80−85
+400%
|
16
−400%
|
Forza Horizon 5 | 55−60
+400%
|
11
−400%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40
+150%
|
16
−150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 40
+233%
|
12
−233%
|
Valorant | 140−150
+943%
|
14
−943%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 59
+136%
|
25
−136%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
+163%
|
8−9
−163%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 140−150
+209%
|
45−50
−209%
|
Grand Theft Auto V | 33
+371%
|
7−8
−371%
|
Metro Exodus | 24−27
+420%
|
5−6
−420%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+365%
|
35−40
−365%
|
Valorant | 180−190
+169%
|
65−70
−169%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
+522%
|
9−10
−522%
|
Cyberpunk 2077 | 18−20
+280%
|
5−6
−280%
|
Far Cry 5 | 43
+258%
|
12−14
−258%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
+257%
|
14−16
−257%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
+260%
|
10−11
−260%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
+256%
|
9−10
−256%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 45−50
+283%
|
12−14
−283%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 16−18
+220%
|
5−6
−220%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+800%
|
1−2
−800%
|
Grand Theft Auto V | 33
+175%
|
12
−175%
|
Metro Exodus | 16−18
+1500%
|
1−2
−1500%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27−30
+867%
|
3−4
−867%
|
Valorant | 110−120
+273%
|
30−33
−273%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−33
+2900%
|
1
−2900%
|
Counter-Strike 2 | 9−10
+800%
|
1−2
−800%
|
Cyberpunk 2077 | 8−9
+300%
|
2−3
−300%
|
Dota 2 | 86
+310%
|
21−24
−310%
|
Far Cry 5 | 21−24
+267%
|
6−7
−267%
|
Forza Horizon 4 | 35−40
+400%
|
7
−400%
|
Forza Horizon 5 | 18−20
+350%
|
4−5
−350%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 20−22
+233%
|
6−7
−233%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 17
+183%
|
6−7
−183%
|
นี่คือวิธีที่ RX 470 และ GT 1030 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เร็วกว่า 176% ในความละเอียด 1080p
- RX 470 เร็วกว่า 52% ในความละเอียด 1440p
- RX 470 เร็วกว่า 270% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Battlefield 5 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ RX 470 เร็วกว่า 2900%
- ในเกม Valorant ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Medium Preset อุปกรณ์ GT 1030 เร็วกว่า 4%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- RX 470 เหนือกว่าใน 66การทดสอบ (99%)
- GT 1030 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (1%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 20.79 | 6.30 |
ความใหม่ล่าสุด | 4 สิงหาคม 2016 | 17 พฤษภาคม 2017 |
การใช้พลังงาน (TDP) | 120 วัตต์ | 30 วัตต์ |
RX 470 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 230%
ในทางกลับกัน GT 1030 มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 9 เดือนและใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
Radeon RX 470 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce GT 1030 ในการทดสอบประสิทธิภาพ