GeForce MX570 เทียบกับ Radeon Pro W6800
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro W6800 กับ GeForce MX570 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
Pro W6800 มีประสิทธิภาพดีกว่า MX570 อย่างมหาศาลถึง 253% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 74 | 407 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 10.98 | ไม่มีข้อมูล |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 14.88 | 42.13 |
| สถาปัตยกรรม | RDNA 2.0 (2020−2025) | Ampere (2020−2025) |
| ชื่อรหัส GPU | Navi 21 | GA107 |
| ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชัน | แล็ปท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 8 มิถุนายน 2021 (เมื่อ 4 ปี ปีที่แล้ว) | พฤษภาคม 2022 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | $2,249 | ไม่มีข้อมูล |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 3840 | 2048 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 2075 MHz | 832 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2320 MHz | 1155 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | 26,800 million | ไม่มีข้อมูล |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 7 nm | 8 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 250 Watt | 25 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 556.8 | 73.92 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 17.82 TFLOPS | 4.731 TFLOPS |
| ROPs | 96 | 40 |
| TMUs | 240 | 64 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 64 |
| Ray Tracing Cores | 60 | 16 |
| L0 Cache | 960 เคบี | ไม่มีข้อมูล |
| L1 Cache | 768 เคบี | 2 เอ็มบี |
| L2 Cache | 4 เอ็มบี | 2 เอ็มบี |
| L3 Cache | 128 เอ็มบี | ไม่มีข้อมูล |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 4.0 x16 | PCIe 4.0 x8 |
| ความยาว | 267 mm | ไม่มีข้อมูล |
| ความกว้าง | 2-slot | ไม่มีข้อมูล |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | None |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | GDDR6 | GDDR6 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 2 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 256 Bit | 64 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 2000 MHz | 1500 MHz |
| 512.0 จีบี/s | 96 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | + | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | 6x mini-DisplayPort | No outputs |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
| Optimus | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 Ultimate (12_2) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.5 | 6.6 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.1 | 3.0 |
| Vulkan | 1.2 | 1.3 |
| CUDA | - | 8.6 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 137
+261%
| 38
−261%
|
| 1440p | 116
+287%
| 30−35
−287%
|
| 4K | 84
+300%
| 21−24
−300%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | 16.42 | ไม่มีข้อมูล |
| 1440p | 19.39 | ไม่มีข้อมูล |
| 4K | 26.77 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 250−260
+111%
|
122
−111%
|
| Cyberpunk 2077 | 110−120
+307%
|
27−30
−307%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 150−160
+148%
|
60−65
−148%
|
| Counter-Strike 2 | 250−260
+143%
|
106
−143%
|
| Cyberpunk 2077 | 110−120
+307%
|
27−30
−307%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+112%
|
55−60
−112%
|
| Far Cry 5 | 70
+52.2%
|
45−50
−52.2%
|
| Fortnite | 210−220
+167%
|
75−80
−167%
|
| Forza Horizon 4 | 180−190
+224%
|
55−60
−224%
|
| Forza Horizon 5 | 150−160
+253%
|
40−45
−253%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+239%
|
50−55
−239%
|
| Valorant | 270−280
+129%
|
110−120
−129%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 150−160
+148%
|
60−65
−148%
|
| Counter-Strike 2 | 250−260
+545%
|
40
−545%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 270−280
+46.3%
|
190−200
−46.3%
|
| Cyberpunk 2077 | 110−120
+307%
|
27−30
−307%
|
| Dota 2 | 99
+10%
|
90−95
−10%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+112%
|
55−60
−112%
|
| Far Cry 5 | 65
+41.3%
|
45−50
−41.3%
|
| Fortnite | 210−220
+167%
|
75−80
−167%
|
| Forza Horizon 4 | 180−190
+224%
|
55−60
−224%
|
| Forza Horizon 5 | 150−160
+253%
|
40−45
−253%
|
| Grand Theft Auto V | 121
+124%
|
54
−124%
|
| Metro Exodus | 160
+452%
|
27−30
−452%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+239%
|
50−55
−239%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 199
+438%
|
35−40
−438%
|
| Valorant | 270−280
+129%
|
110−120
−129%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 150−160
+148%
|
60−65
−148%
|
| Cyberpunk 2077 | 110−120
+307%
|
27−30
−307%
|
| Dota 2 | 86
−4.7%
|
90−95
+4.7%
|
| Escape from Tarkov | 120−130
+112%
|
55−60
−112%
|
| Far Cry 5 | 62
+34.8%
|
45−50
−34.8%
|
| Forza Horizon 4 | 180−190
+224%
|
55−60
−224%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+239%
|
50−55
−239%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 157
+362%
|
34
−362%
|
| Valorant | 270−280
+129%
|
110−120
−129%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 210−220
+167%
|
75−80
−167%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 130−140
+396%
|
27−30
−396%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 350−400
+238%
|
100−110
−238%
|
| Grand Theft Auto V | 88
+300%
|
21−24
−300%
|
| Metro Exodus | 171
+906%
|
16−18
−906%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 170−180
+35.7%
|
120−130
−35.7%
|
| Valorant | 300−350
+111%
|
140−150
−111%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 120−130
+208%
|
35−40
−208%
|
| Cyberpunk 2077 | 60−65
+417%
|
12−14
−417%
|
| Escape from Tarkov | 110−120
+300%
|
27−30
−300%
|
| Far Cry 5 | 64
+113%
|
30−33
−113%
|
| Forza Horizon 4 | 140−150
+338%
|
30−35
−338%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 100−110
+410%
|
20−22
−410%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 130−140
+335%
|
30−35
−335%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 60−65
+500%
|
10−11
−500%
|
| Grand Theft Auto V | 125
+381%
|
24−27
−381%
|
| Metro Exodus | 55
+450%
|
10−11
−450%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 99
+421%
|
18−20
−421%
|
| Valorant | 280−290
+280%
|
75−80
−280%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 80−85
+305%
|
20−22
−305%
|
| Counter-Strike 2 | 60−65
+500%
|
10−11
−500%
|
| Cyberpunk 2077 | 27−30
+480%
|
5−6
−480%
|
| Dota 2 | 94
+88%
|
50−55
−88%
|
| Escape from Tarkov | 65−70
+400%
|
12−14
−400%
|
| Far Cry 5 | 60
+300%
|
14−16
−300%
|
| Forza Horizon 4 | 100−110
+329%
|
24−27
−329%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
+500%
|
12−14
−500%
|
4K
Epic
| Fortnite | 70−75
+400%
|
14−16
−400%
|
นี่คือวิธีที่ Pro W6800 และ GeForce MX570 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เร็วกว่า 261% ในความละเอียด 1080p
- Pro W6800 เร็วกว่า 287% ในความละเอียด 1440p
- Pro W6800 เร็วกว่า 300% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Pro W6800 เร็วกว่า 906%
- ในเกม Dota 2 ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ GeForce MX570 เร็วกว่า 5%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Pro W6800 เหนือกว่าใน 63การทดสอบ (98%)
- GeForce MX570 เหนือกว่าใน 1การทดสอบ (2%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 48.47 | 13.72 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 32 จีบี | 2 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 7 nm | 8 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 250 วัตต์ | 25 วัตต์ |
Pro W6800 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 253.3% และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 14.3%
ในทางกลับกัน GeForce MX570 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 900%
Radeon Pro W6800 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า GeForce MX570 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro W6800 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชัน ในขณะที่ GeForce MX570 เป็นการ์ดจอโน้ตบุ๊ก
