GeForce RTX 5070 เทียบกับ Radeon Pro Vega 16
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 16 กับ GeForce RTX 5070 รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5070 มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro 16 อย่างมหาศาลถึง 501% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
| ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 450 | 25 |
| จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | 18 |
| ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 73.97 |
| ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.75 | 21.19 |
| สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Blackwell 2.0 (2025−2026) |
| ชื่อรหัส GPU | Vega 12 | GB205 |
| ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
| วันที่วางจำหน่าย | 14 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 4 มีนาคม 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
| ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $549 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
กราฟแบบกระจายประสิทธิภาพต่อราคา
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
| พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 6144 |
| ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 815 MHz | 2325 MHz |
| เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1190 MHz | 2512 MHz |
| จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 31,100 million |
| เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 250 Watt |
| อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 76.16 | 482.3 |
| ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.437 TFLOPS | 30.87 TFLOPS |
| ROPs | 32 | 80 |
| TMUs | 64 | 192 |
| Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 192 |
| Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 48 |
| L1 Cache | 256 เคบี | 6 เอ็มบี |
| L2 Cache | 1024 เคบี | 48 เอ็มบี |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
| ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
| อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
| ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 245 mm |
| ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
| ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
| ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR7 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
| ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 1024 Bit | 192 Bit |
| ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1200 MHz | 1750 MHz |
| 307.2 จีบี/s | 672.0 จีบี/s | |
| หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
| Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
| ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
| HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
| DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
| รุ่นเชดเดอร์ | 6.3 | 6.8 |
| OpenGL | 4.6 | 4.6 |
| OpenCL | 2.0 | 3.0 |
| Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
| CUDA | - | 10.1 |
| DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
| Full HD | 59
−269%
| 218
+269%
|
| 1440p | 18−21
−589%
| 124
+589%
|
| 4K | 38
−103%
| 77
+103%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
| 1080p | ไม่มีข้อมูล | 2.52 |
| 1440p | ไม่มีข้อมูล | 4.43 |
| 4K | ไม่มีข้อมูล | 7.13 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low
| Counter-Strike 2 | 60−65
−398%
|
300−350
+398%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−981%
|
227
+981%
|
Full HD
Medium
| Battlefield 5 | 50−55
−257%
|
180−190
+257%
|
| Counter-Strike 2 | 60−65
−398%
|
300−350
+398%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
| Far Cry 5 | 35−40
−747%
|
322
+747%
|
| Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
−460%
|
280−290
+460%
|
| Forza Horizon 5 | 35−40
−814%
|
329
+814%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−843%
|
198
+843%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
| Valorant | 100−110
−288%
|
400−450
+288%
|
Full HD
High
| Battlefield 5 | 50−55
−257%
|
180−190
+257%
|
| Counter-Strike 2 | 60−65
−398%
|
300−350
+398%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−65.5%
|
270−280
+65.5%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
| Dota 2 | 75
−500%
|
450−500
+500%
|
| Far Cry 5 | 35−40
−705%
|
306
+705%
|
| Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
−460%
|
280−290
+460%
|
| Forza Horizon 5 | 35−40
−731%
|
299
+731%
|
| Grand Theft Auto V | 40−45
−291%
|
170−180
+291%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−652%
|
158
+652%
|
| Metro Exodus | 24−27
−646%
|
170−180
+646%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−1306%
|
436
+1306%
|
| Valorant | 100−110
−288%
|
400−450
+288%
|
Full HD
Ultra
| Battlefield 5 | 50−55
−257%
|
180−190
+257%
|
| Cyberpunk 2077 | 24−27
−638%
|
170−180
+638%
|
| Dota 2 | 72
−456%
|
400−450
+456%
|
| Far Cry 5 | 35−40
−663%
|
290
+663%
|
| Forza Horizon 4 | 50−55
−460%
|
280−290
+460%
|
| Hogwarts Legacy | 21−24
−476%
|
121
+476%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−317%
|
170−180
+317%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−678%
|
210
+678%
|
| Valorant | 100−110
−288%
|
400−450
+288%
|
Full HD
Epic
| Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
1440p
High
| Counter-Strike 2 | 21−24
−891%
|
210−220
+891%
|
| Counter-Strike: Global Offensive | 85−90
−486%
|
500−550
+486%
|
| Grand Theft Auto V | 16−18
−759%
|
140−150
+759%
|
| Metro Exodus | 14−16
−771%
|
120−130
+771%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 85−90
−101%
|
170−180
+101%
|
| Valorant | 120−130
−288%
|
450−500
+288%
|
1440p
Ultra
| Battlefield 5 | 30−35
−484%
|
180−190
+484%
|
| Cyberpunk 2077 | 10−11
−930%
|
100−110
+930%
|
| Far Cry 5 | 24−27
−788%
|
222
+788%
|
| Forza Horizon 4 | 27−30
−775%
|
240−250
+775%
|
| Hogwarts Legacy | 12−14
−585%
|
89
+585%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−876%
|
166
+876%
|
1440p
Epic
| Fortnite | 24−27
−504%
|
150−160
+504%
|
4K
High
| Counter-Strike 2 | 7−8
−1300%
|
95−100
+1300%
|
| Grand Theft Auto V | 21−24
−635%
|
160−170
+635%
|
| Hogwarts Legacy | 6−7
−817%
|
55−60
+817%
|
| Metro Exodus | 8−9
−913%
|
80−85
+913%
|
| The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−900%
|
150
+900%
|
| Valorant | 60−65
−431%
|
300−350
+431%
|
4K
Ultra
| Battlefield 5 | 16−18
−738%
|
130−140
+738%
|
| Counter-Strike 2 | 7−8
−1300%
|
95−100
+1300%
|
| Cyberpunk 2077 | 4−5
−1150%
|
50−55
+1150%
|
| Dota 2 | 38
−479%
|
220−230
+479%
|
| Far Cry 5 | 12−14
−867%
|
116
+867%
|
| Forza Horizon 4 | 20−22
−900%
|
200−210
+900%
|
| Hogwarts Legacy | 6−7
−767%
|
52
+767%
|
| PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−773%
|
95−100
+773%
|
4K
Epic
| Fortnite | 10−12
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 16 และ RTX 5070 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 เร็วกว่า 269% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 เร็วกว่า 589% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 เร็วกว่า 103% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 เร็วกว่า 1306%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5070 เหนือกว่า Pro Vega 16 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
| คะแนนประสิทธิภาพ | 10.88 | 65.42 |
| ความใหม่ล่าสุด | 14 พฤศจิกายน 2018 | 4 มีนาคม 2025 |
| จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 12 จีบี |
| การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
| การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 250 วัตต์ |
Pro Vega 16 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 233.3%
ในทางกลับกัน RTX 5070 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 501.3% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 5070 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro Vega 16 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 16 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 5070 เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป
