GeForce RTX 5070 Ti เทียบกับ Radeon Pro Vega 16
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Pro Vega 16 กับ GeForce RTX 5070 Ti รวมถึงสเปกและข้อมูลประสิทธิภาพ
RTX 5070 Ti มีประสิทธิภาพดีกว่า Pro Vega 16 อย่างมหาศาลถึง 583% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 418 | 7 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | ไม่มีข้อมูล | 55.37 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 11.35 | 19.38 |
สถาปัตยกรรม | GCN 5.0 (2017−2020) | Blackwell 2.0 (2025) |
ชื่อรหัส GPU | Vega 12 | GB203 |
ประเภทตลาด | เวิร์กสเตชันแบบพกพา | เดสก์ท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 14 พฤศจิกายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กุมภาพันธ์ 2025 (ไม่เกินหนึ่งปีที่ผ่านมา) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | ไม่มีข้อมูล | $749 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 1024 | 8960 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | 815 MHz | 2295 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 1190 MHz | 2452 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | ไม่มีข้อมูล | 45,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 Watt | 300 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 76.16 | 686.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 2.437 TFLOPS | 43.94 TFLOPS |
ROPs | 32 | 96 |
TMUs | 64 | 280 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 280 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 70 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
ขนาดแล็ปท็อป | large | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 5.0 x16 |
ความยาว | ไม่มีข้อมูล | 304 mm |
ความกว้าง | ไม่มีข้อมูล | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | ไม่มีข้อมูล | 1x 16-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | HBM2 | GDDR7 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 1024 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1200 MHz | 1750 MHz |
307.2 จีบี/s | 896.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
Resizable BAR | - | + |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | No outputs | 1x HDMI 2.1b, 3x DisplayPort 2.1b |
HDMI | - | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12 (12_1) | 12 Ultimate (12_2) |
รุ่นเชดเดอร์ | 6.3 | 6.8 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 2.0 | 3.0 |
Vulkan | 1.2.131 | 1.4 |
CUDA | - | 12.0 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 59
−280%
| 224
+280%
|
1440p | 18−20
−639%
| 133
+639%
|
4K | 38
−132%
| 88
+132%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | ไม่มีข้อมูล | 3.34 |
1440p | ไม่มีข้อมูล | 5.63 |
4K | ไม่มีข้อมูล | 8.51 |
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 60−65
−417%
|
300−350
+417%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−746%
|
200−210
+746%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−952%
|
221
+952%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 50−55
−286%
|
190−200
+286%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−417%
|
300−350
+417%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−746%
|
200−210
+746%
|
Far Cry 5 | 35−40
−736%
|
326
+736%
|
Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−560%
|
300−350
+560%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−500%
|
220−230
+500%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−843%
|
198
+843%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−319%
|
170−180
+319%
|
Valorant | 100−110
−383%
|
500−550
+383%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 50−55
−286%
|
190−200
+286%
|
Counter-Strike 2 | 60−65
−417%
|
300−350
+417%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 160−170
−65.5%
|
270−280
+65.5%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−746%
|
200−210
+746%
|
Dota 2 | 75
−567%
|
500−550
+567%
|
Far Cry 5 | 35−40
−695%
|
310
+695%
|
Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−560%
|
300−350
+560%
|
Forza Horizon 5 | 35−40
−500%
|
220−230
+500%
|
Grand Theft Auto V | 40−45
−293%
|
170−180
+293%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−748%
|
178
+748%
|
Metro Exodus | 24−27
−904%
|
241
+904%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−319%
|
170−180
+319%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−33
−1663%
|
529
+1663%
|
Valorant | 100−110
−383%
|
500−550
+383%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 50−55
−286%
|
190−200
+286%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−746%
|
200−210
+746%
|
Dota 2 | 72
−525%
|
450−500
+525%
|
Far Cry 5 | 35−40
−654%
|
294
+654%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−560%
|
300−350
+560%
|
Hogwarts Legacy | 21−24
−543%
|
135
+543%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 40−45
−319%
|
170−180
+319%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 27
−811%
|
246
+811%
|
Valorant | 100−110
−383%
|
500−550
+383%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 65−70
−338%
|
300−350
+338%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 21−24
−1068%
|
250−260
+1068%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 85−90
−486%
|
500−550
+486%
|
Grand Theft Auto V | 18−20
−783%
|
150−160
+783%
|
Metro Exodus | 14−16
−993%
|
153
+993%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 75−80
−122%
|
170−180
+122%
|
Valorant | 120−130
−282%
|
450−500
+282%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 30−35
−532%
|
190−200
+532%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−1140%
|
120−130
+1140%
|
Far Cry 5 | 24−27
−904%
|
251
+904%
|
Forza Horizon 4 | 27−30
−954%
|
290−300
+954%
|
Hogwarts Legacy | 12−14
−750%
|
102
+750%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−1094%
|
203
+1094%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 24−27
−504%
|
150−160
+504%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 6−7
−1850%
|
110−120
+1850%
|
Grand Theft Auto V | 21−24
−704%
|
180−190
+704%
|
Hogwarts Legacy | 6−7
−1217%
|
79
+1217%
|
Metro Exodus | 8−9
−1163%
|
101
+1163%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−1257%
|
190
+1257%
|
Valorant | 60−65
−427%
|
300−350
+427%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 16−18
−750%
|
130−140
+750%
|
Counter-Strike 2 | 6−7
−1850%
|
110−120
+1850%
|
Cyberpunk 2077 | 4−5
−1425%
|
60−65
+1425%
|
Dota 2 | 38
−558%
|
250−260
+558%
|
Far Cry 5 | 12−14
−1100%
|
144
+1100%
|
Forza Horizon 4 | 20−22
−1240%
|
260−270
+1240%
|
Hogwarts Legacy | 6−7
−950%
|
63
+950%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 10−12
−773%
|
95−100
+773%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 10−12
−618%
|
75−80
+618%
|
นี่คือวิธีที่ Pro Vega 16 และ RTX 5070 Ti แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 280% ในความละเอียด 1080p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 639% ในความละเอียด 1440p
- RTX 5070 Ti เร็วกว่า 132% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 5070 Ti เร็วกว่า 1850%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 5070 Ti เหนือกว่า Pro Vega 16 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 11.41 | 77.90 |
ความใหม่ล่าสุด | 14 พฤศจิกายน 2018 | 20 กุมภาพันธ์ 2025 |
จำนวน RAM สูงสุด | 4 จีบี | 16 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 14 nm | 5 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 75 วัตต์ | 300 วัตต์ |
Pro Vega 16 มีข้อได้เปรียบ ใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 300%
ในทางกลับกัน RTX 5070 Ti มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 582.7% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 180%
GeForce RTX 5070 Ti เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Pro Vega 16 ในการทดสอบประสิทธิภาพ
โปรดทราบว่า Radeon Pro Vega 16 เป็นการ์ดจอเวิร์กสเตชันแบบพกพา ในขณะที่ GeForce RTX 5070 Ti เป็นการ์ดจอเดสก์ท็อป