GeForce RTX 2080 เทียบกับ Radeon HD 7970
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon HD 7970 และ GeForce RTX 2080 โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
RTX 2080 มีประสิทธิภาพดีกว่า HD 7970 อย่างมหาศาลถึง 257% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 395 | 73 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา | 2.12 | 26.47 |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | 3.73 | 15.48 |
สถาปัตยกรรม | GCN 1.0 (2011−2020) | Turing (2018−2022) |
ชื่อรหัส GPU | Tahiti | TU104 |
ประเภทตลาด | เดสก์ท็อป | เดสก์ท็อป |
การออกแบบ | reference | ไม่มีข้อมูล |
วันที่วางจำหน่าย | 22 ธันวาคม 2011 (เมื่อ 13 ปี ปีที่แล้ว) | 20 กันยายน 2018 (เมื่อ 6 ปี ปีที่แล้ว) |
ราคาเปิดตัว (MSRP) | $549 | $699 |
ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
อัตราส่วนประสิทธิภาพต่อราคา ยิ่งสูงยิ่งดี
RTX 2080 มีความคุ้มค่ามากกว่า HD 7970 อยู่ 1149%
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 2048 | 2944 |
ความเร็วสัญญาณนาฬิกาหลัก | ไม่มีข้อมูล | 1515 MHz |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 925 MHz | 1710 MHz |
จำนวนทรานซิสเตอร์ | 4,313 million | 13,600 million |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 Watt | 215 Watt |
อัตราการเติมเท็กซ์เจอร์ | 118.4 | 314.6 |
ประสิทธิภาพการประมวลผลจุดลอยตัว | 3.789 TFLOPS | 10.07 TFLOPS |
ROPs | 32 | 64 |
TMUs | 128 | 184 |
Tensor Cores | ไม่มีข้อมูล | 368 |
Ray Tracing Cores | ไม่มีข้อมูล | 46 |
ฟอร์มแฟกเตอร์และความเข้ากันได้
ข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ มีประโยชน์เมื่อเลือกการกำหนดค่าคอมพิวเตอร์ในอนาคตหรืออัปเกรดคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ สำหรับการ์ดจอเดสก์ท็อป จะรวมถึงอินเทอร์เฟซและบัส (ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ด) และขั้วต่อไฟเพิ่มเติม (ความเข้ากันได้กับหน่วยจ่ายไฟ)
การรองรับบัส | PCIe 2.1 x16 | ไม่มีข้อมูล |
อินเทอร์เฟซ | PCIe 3.0 x16 | PCIe 3.0 x16 |
ความยาว | 274 mm | 267 mm |
ความกว้าง | 2-slot | 2-slot |
ขั้วต่อพลังงานเสริม | 1x 6-pin + 1x 8-pin | 1x 6-pin + 1x 8-pin |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
ประเภทหน่วยความจำ | GDDR5 | GDDR6 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
ความกว้างบัสหน่วยความจำ | 384 Bit | 256 Bit |
ความเร็วของนาฬิกาหน่วยความจำ | 1375 MHz | 1750 MHz |
264 จีบี/s | 448.0 จีบี/s | |
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | - | - |
การเชื่อมต่อและเอาต์พุต
ประเภทและจำนวนของตัวเชื่อมต่อวิดีโอที่มีใน GPU ที่รีวิว โดยทั่วไป ข้อมูลในส่วนนี้จะแม่นยำเฉพาะสำหรับการ์ดเดสก์ท็อปแบบอ้างอิง (หรือที่เรียกว่า Founders Edition สำหรับชิป NVIDIA) ผู้ผลิต OEM อาจเปลี่ยนแปลงจำนวนและประเภทของพอร์ตเอาต์พุต ในขณะที่สำหรับการ์ดโน้ตบุ๊ก ความพร้อมใช้งานของพอร์ตวิดีโอบางประเภทขึ้นอยู่กับรุ่นของแล็ปท็อปมากกว่าตัวการ์ดเอง
ขั้วต่อจอแสดงผล | 1x DVI, 1x HDMI, 2x mini-DisplayPort | 1x HDMI, 3x DisplayPort, 1x USB Type-C |
Eyefinity | + | - |
HDMI | + | + |
รองรับ G-SYNC | - | + |
เทคโนโลยีที่รองรับ
โซลูชันทางเทคโนโลยีที่รองรับ ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์หากคุณต้องการเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการใช้งานของคุณ
CrossFire | + | - |
FreeSync | + | - |
VR Ready | ไม่มีข้อมูล | + |
ความเข้ากันได้ของ API และ SDK
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | DirectX® 11 | 12 Ultimate (12_1) |
รุ่นเชดเดอร์ | 5.1 | 6.5 |
OpenGL | 4.6 | 4.6 |
OpenCL | 1.2 | 1.2 |
Vulkan | - | 1.2.131 |
CUDA | - | 7.5 |
DLSS | - | + |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา
Passmark
นี่คือการทดสอบ GPU ที่พบได้บ่อยที่สุด โดยจะประเมินการ์ดจอภายใต้ภาระงานหลากหลายประเภท โดยให้การทดสอบแยกต่างหาก 4 ครั้งสำหรับ Direct3D เวอร์ชัน 9, 10, 11 และ 12 (เวอร์ชันสุดท้ายใช้ความละเอียด 4K หากทำได้) รวมถึงการทดสอบเพิ่มเติมที่ใช้คุณสมบัติ DirectCompute
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
900p | 105
−233%
| 350−400
+233%
|
Full HD | 93
−53.8%
| 143
+53.8%
|
1440p | 27−30
−274%
| 101
+274%
|
4K | 18−21
−300%
| 72
+300%
|
ต้นทุนต่อเฟรม, $
1080p | 5.90
−20.8%
| 4.89
+20.8%
|
1440p | 20.33
−194%
| 6.92
+194%
|
4K | 30.50
−214%
| 9.71
+214%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Atomic Heart | 30−35
−334%
|
130−140
+334%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−251%
|
240−250
+251%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−315%
|
100−110
+315%
|
Full HD
Medium Preset
Atomic Heart | 30−35
−334%
|
130−140
+334%
|
Battlefield 5 | 55−60
−191%
|
163
+191%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−251%
|
240−250
+251%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−315%
|
100−110
+315%
|
Far Cry 5 | 40−45
−172%
|
117
+172%
|
Fortnite | 70−75
−169%
|
199
+169%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−189%
|
156
+189%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−245%
|
130−140
+245%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−354%
|
209
+354%
|
Valorant | 110−120
−139%
|
263
+139%
|
Full HD
High Preset
Atomic Heart | 30−35
−334%
|
130−140
+334%
|
Battlefield 5 | 55−60
−177%
|
155
+177%
|
Counter-Strike 2 | 70−75
−251%
|
240−250
+251%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 212
−31.1%
|
270−280
+31.1%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−315%
|
100−110
+315%
|
Dota 2 | 80−85
−77.4%
|
140−150
+77.4%
|
Far Cry 5 | 40−45
−160%
|
112
+160%
|
Fortnite | 70−75
−134%
|
173
+134%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−183%
|
153
+183%
|
Forza Horizon 5 | 40−45
−245%
|
130−140
+245%
|
Grand Theft Auto V | 45−50
−167%
|
131
+167%
|
Metro Exodus | 24−27
−246%
|
90
+246%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−309%
|
188
+309%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−432%
|
181
+432%
|
Valorant | 110−120
−131%
|
254
+131%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 55−60
−159%
|
145
+159%
|
Cyberpunk 2077 | 24−27
−315%
|
100−110
+315%
|
Dota 2 | 80−85
−77.4%
|
140−150
+77.4%
|
Far Cry 5 | 40−45
−147%
|
106
+147%
|
Forza Horizon 4 | 50−55
−144%
|
132
+144%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 45−50
−267%
|
169
+267%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 30−35
−212%
|
106
+212%
|
Valorant | 110−120
−103%
|
223
+103%
|
Full HD
Epic Preset
Fortnite | 70−75
−111%
|
156
+111%
|
1440p
High Preset
Counter-Strike 2 | 24−27
−413%
|
120−130
+413%
|
Counter-Strike: Global Offensive | 95−100
−227%
|
300−350
+227%
|
Grand Theft Auto V | 20−22
−370%
|
90−95
+370%
|
Metro Exodus | 14−16
−300%
|
60
+300%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 100−110
−62%
|
170−180
+62%
|
Valorant | 130−140
−81.6%
|
247
+81.6%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 35−40
−257%
|
125
+257%
|
Cyberpunk 2077 | 10−12
−409%
|
55−60
+409%
|
Far Cry 5 | 27−30
−254%
|
99
+254%
|
Forza Horizon 4 | 30−35
−281%
|
118
+281%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 20−22
−345%
|
85−90
+345%
|
1440p
Epic Preset
Fortnite | 27−30
−357%
|
128
+357%
|
4K
High Preset
Atomic Heart | 10−11
−270%
|
35−40
+270%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−588%
|
55−60
+588%
|
Grand Theft Auto V | 24−27
−346%
|
107
+346%
|
Metro Exodus | 9−10
−333%
|
39
+333%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−347%
|
76
+347%
|
Valorant | 65−70
−239%
|
234
+239%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 18−20
−322%
|
76
+322%
|
Counter-Strike 2 | 8−9
−588%
|
55−60
+588%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−420%
|
24−27
+420%
|
Dota 2 | 45−50
−165%
|
120−130
+165%
|
Far Cry 5 | 12−14
−354%
|
59
+354%
|
Forza Horizon 4 | 21−24
−268%
|
81
+268%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−475%
|
69
+475%
|
4K
Epic Preset
Fortnite | 12−14
−442%
|
65
+442%
|
นี่คือวิธีที่ HD 7970 และ RTX 2080 แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- RTX 2080 เร็วกว่า 233% ในความละเอียด 900p
- RTX 2080 เร็วกว่า 54% ในความละเอียด 1080p
- RTX 2080 เร็วกว่า 274% ในความละเอียด 1440p
- RTX 2080 เร็วกว่า 300% ในความละเอียด 4K
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Counter-Strike 2 ด้วยความละเอียด 4K และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ RTX 2080 เร็วกว่า 588%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- โดยไม่มีข้อยกเว้น RTX 2080 เหนือกว่า HD 7970 ในการทดสอบทั้ง 63 ครั้งของเรา
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 11.74 | 41.97 |
ความใหม่ล่าสุด | 22 ธันวาคม 2011 | 20 กันยายน 2018 |
จำนวน RAM สูงสุด | 6 จีบี | 8 จีบี |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 28 nm | 12 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | 300 วัตต์ | 215 วัตต์ |
RTX 2080 มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 257.5% และได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 6 ปี และและมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%และใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 39.5%
GeForce RTX 2080 เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon HD 7970 ในการทดสอบประสิทธิภาพ