UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เทียบกับ Radeon Graphics (Ryzen 7000)
คะแนนประสิทธิภาพรวม
เราได้เปรียบเทียบ Radeon Graphics (Ryzen 7000) และ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) โดยครอบคลุมสเปกและผลการทดสอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีประสิทธิภาพดีกว่า Graphics (Ryzen 7000) อย่างมหาศาลถึง 217% ตามผลการทดสอบแบบรวมของเรา
รายละเอียดหลัก
สถาปัตยกรรม GPU, กลุ่มตลาด, ความคุ้มค่า และพารามิเตอร์ทั่วไปอื่นๆ ที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่งในการจัดอันดับประสิทธิภาพ | 669 | 372 |
จัดอันดับตามความนิยม | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก | ไม่ได้อยู่ใน 100 อันดับแรก |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | ไม่มีข้อมูล | 64.78 |
สถาปัตยกรรม | RDNA 2 (2022−2023) | ไม่มีข้อมูล |
ชื่อรหัส GPU | Raphael | Rocket Lake GT1 |
ประเภทตลาด | แล็ปท็อป | แล็ปท็อป |
วันที่วางจำหน่าย | 26 กันยายน 2022 (เมื่อ 2 ปี ปีที่แล้ว) | 30 มีนาคม 2021 (เมื่อ 3 ปี ปีที่แล้ว) |
สเปกโดยละเอียด
พารามิเตอร์ทั่วไป เช่น จำนวนเชดเดอร์, ความถี่พื้นฐานและความถี่บูสต์ของ GPU, กระบวนการผลิต, ความเร็วการประมวลผลและการเท็กซ์เจอร์ โปรดทราบว่าการใช้พลังงานของการ์ดจอบางรุ่นอาจเกินกว่า TDP ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะเมื่อทำการโอเวอร์คล็อก
พาธไลน์ / คอร์ CUDA | 128 | ไม่มีข้อมูล |
เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกา | 2200 MHz | ไม่มีข้อมูล |
เทคโนโลยีกระบวนการผลิต | 6 nm | 14 nm |
การใช้พลังงาน (TDP) | ไม่มีข้อมูล | 15 Watt |
ความจุและประเภทของ VRAM
พารามิเตอร์ของ VRAM ที่ติดตั้ง: ประเภท, ขนาด, บัส, ความถี่ และแบนด์วิดท์ที่ได้ GPU แบบรวมไม่มี VRAM เฉพาะ และใช้ส่วนแบ่งของ RAM ระบบแทน
หน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน | + | - |
ความเข้ากันได้ของ API
รายการ API สำหรับการประมวลผล 3D และการประมวลผลทั่วไปที่รองรับ รวมถึงเวอร์ชันเฉพาะ
DirectX | 12_2 | ไม่มีข้อมูล |
ประสิทธิภาพการทดสอบแบบสังเคราะห์
การเปรียบเทียบผลการทดสอบที่ไม่เกี่ยวกับเกม โดยคะแนนรวมวัดบนมาตราส่วน 0-100 คะแนน
คะแนนรวมของการทดสอบแบบสังเคราะห์
นี่คือคะแนนการทดสอบแบบรวมของเรา เรากำลังปรับปรุงอัลกอริทึมรวมคะแนนอย่างต่อเนื่อง แต่หากคุณพบความไม่สอดคล้องใด ๆ สามารถแจ้งให้เราทราบในส่วนความคิดเห็นได้ เรามักจะแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
3DMark 11 Performance GPU
3DMark 11 เป็นการทดสอบ DirectX 11 เก่าโดย Futuremark ซึ่งประกอบไปด้วย 4 การทดสอบจาก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงการสำรวจซากเรือจมใต้น้ำโดยเรือดำน้ำหลายลำ อีกฉากหนึ่งแสดงวัดร้างลึกเข้าไปในป่าทึบ การทดสอบทั้งหมดใช้แสงวอลุ่ม (Volumetric Lighting) และ Tessellation อย่างหนัก แม้จะใช้ความละเอียด 1280x720 แต่ก็ยังค่อนข้างกินทรัพยากรฮาร์ดแวร์ ยกเลิกไปในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย Time Spy
3DMark Vantage Performance
3DMark Vantage เป็นการทดสอบ DirectX 10 เก่าที่ใช้ความละเอียด 1280x1024 โดยมีฉากหลัก 2 ฉาก: ฉากแรกแสดงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีออกจากฐานทัพในถ้ำกลางทะเล และอีกฉากหนึ่งแสดงยานอวกาศบุกโจมตีดาวเคราะห์ที่ไร้การป้องกัน ยกเลิกไปในเดือนเมษายน 2017 และแนะนำให้ใช้การทดสอบ Time Spy แทน
3DMark Fire Strike Graphics
Fire Strike เป็นการทดสอบ DirectX 11 สำหรับเกมพีซี ประกอบด้วยการทดสอบ 2 ฉากที่แสดงการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากลาวา ใช้ความละเอียด 1920x1080 และสามารถแสดงกราฟิกที่สมจริง กินทรัพยากรฮาร์ดแวร์สูง
3DMark Cloud Gate GPU
Cloud Gate เป็นการทดสอบ DirectX 11 ระดับ 10 ที่ล้าสมัย ซึ่งเคยใช้สำหรับพีซีตามบ้านและแล็ปท็อปพื้นฐาน แสดงฉากการปล่อยยานอวกาศผ่านอุปกรณ์เทเลพอร์ตอวกาศประหลาด ด้วยความละเอียด 1280x720 เช่นเดียวกับ Ice Storm Benchmark ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม 2020 และถูกแทนที่โดย 3DMark Night Raid
Unigine Heaven 3.0
นี่คือการทดสอบ DirectX 11 เก่า ที่ใช้ Unigine ซึ่งเป็นเอนจินเกม 3 มิติจากบริษัทรัสเซียชื่อเดียวกัน แสดงฉากเมืองแฟนตาซียุคกลางที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้าหลายเกาะ เวอร์ชัน 3.0 เปิดตัวในปี 2012 และในปี 2013 ถูกแทนที่ด้วย Heaven 4.0 ซึ่งมีการปรับปรุงเล็กน้อย รวมถึงการใช้เวอร์ชันใหม่ของ Unigine
ประสิทธิภาพในการเล่นเกม
มาดูกันว่าการ์ดจอที่นำมาเปรียบเทียบเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดสอบเกมเฉพาะจะวัดเป็นเฟรมต่อวินาที (FPS)
ค่า FPS เฉลี่ยจากเกมพีซีทั้งหมด
นี่คือค่าเฉลี่ยเฟรมต่อวินาทีจากเกมยอดนิยมหลากหลายเกมในหลายความละเอียด:
Full HD | 17
+41.7%
| 12
−41.7%
|
ประสิทธิภาพ FPS ในเกมยอดนิยม
Full HD
Low Preset
Counter-Strike 2 | 10−11
−140%
|
24−27
+140%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−180%
|
27−30
+180%
|
Full HD
Medium Preset
Battlefield 5 | 12−14
−254%
|
45−50
+254%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−140%
|
24−27
+140%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−180%
|
27−30
+180%
|
Forza Horizon 4 | 17
+21.4%
|
14
−21.4%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
−363%
|
35−40
+363%
|
Metro Exodus | 10−11
+0%
|
10
+0%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
−150%
|
35−40
+150%
|
Valorant | 10−12
−418%
|
55−60
+418%
|
Full HD
High Preset
Battlefield 5 | 12−14
−254%
|
45−50
+254%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−140%
|
24−27
+140%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−180%
|
27−30
+180%
|
Dota 2 | 14
+7.7%
|
13
−7.7%
|
Far Cry 5 | 23
+27.8%
|
18
−27.8%
|
Fortnite | 24−27
−204%
|
75−80
+204%
|
Forza Horizon 4 | 11
−9.1%
|
12
+9.1%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
−363%
|
35−40
+363%
|
Grand Theft Auto V | 14−16
+133%
|
6
−133%
|
Metro Exodus | 10−11
+42.9%
|
7
−42.9%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−171%
|
100−110
+171%
|
Red Dead Redemption 2 | 14−16
−150%
|
35−40
+150%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 14−16
−187%
|
40−45
+187%
|
Valorant | 10−12
−418%
|
55−60
+418%
|
World of Tanks | 70−75
−151%
|
180−190
+151%
|
Full HD
Ultra Preset
Battlefield 5 | 12−14
−254%
|
45−50
+254%
|
Counter-Strike 2 | 10−11
−140%
|
24−27
+140%
|
Cyberpunk 2077 | 10−11
−180%
|
27−30
+180%
|
Dota 2 | 37
+48%
|
25
−48%
|
Far Cry 5 | 21−24
−141%
|
50−55
+141%
|
Forza Horizon 4 | 9
−533%
|
55−60
+533%
|
Forza Horizon 5 | 8−9
−363%
|
35−40
+363%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 35−40
−171%
|
100−110
+171%
|
Valorant | 10−12
−418%
|
55−60
+418%
|
1440p
High Preset
Dota 2 | 4−5
−400%
|
20−22
+400%
|
Grand Theft Auto V | 4−5
−425%
|
21−24
+425%
|
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 30−33
−290%
|
110−120
+290%
|
Red Dead Redemption 2 | 3−4
−300%
|
12−14
+300%
|
World of Tanks | 30−35
−209%
|
95−100
+209%
|
1440p
Ultra Preset
Battlefield 5 | 6−7
−367%
|
27−30
+367%
|
Counter-Strike 2 | 30−35
+0%
|
30−35
+0%
|
Cyberpunk 2077 | 5−6
−120%
|
10−12
+120%
|
Far Cry 5 | 10−11
−230%
|
30−35
+230%
|
Forza Horizon 4 | 6−7
−467%
|
30−35
+467%
|
Forza Horizon 5 | 6−7
−267%
|
21−24
+267%
|
Metro Exodus | 2−3
−1400%
|
30−33
+1400%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 7−8
−171%
|
18−20
+171%
|
Valorant | 12−14
−169%
|
35−40
+169%
|
4K
High Preset
Dota 2 | 16−18
−56.3%
|
24−27
+56.3%
|
Grand Theft Auto V | 16−18
−56.3%
|
24−27
+56.3%
|
Metro Exodus | 0−1 | 9−10 |
PLAYERUNKNOWN'S BATTLEGROUNDS | 12−14
−215%
|
40−45
+215%
|
Red Dead Redemption 2 | 3−4
−200%
|
9−10
+200%
|
The Witcher 3: Wild Hunt | 16−18
−56.3%
|
24−27
+56.3%
|
4K
Ultra Preset
Battlefield 5 | 4−5
−225%
|
12−14
+225%
|
Cyberpunk 2077 | 2−3
−100%
|
4−5
+100%
|
Dota 2 | 16−18
−56.3%
|
24−27
+56.3%
|
Far Cry 5 | 5−6
−260%
|
18−20
+260%
|
Fortnite | 3−4
−433%
|
16−18
+433%
|
Forza Horizon 4 | 3−4
−567%
|
20−22
+567%
|
Forza Horizon 5 | 2−3
−450%
|
10−12
+450%
|
Valorant | 4−5
−275%
|
14−16
+275%
|
4K
High Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
4K
Ultra Preset
Counter-Strike 2 | 9−10
+0%
|
9−10
+0%
|
นี่คือวิธีที่ Graphics (Ryzen 7000) และ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) แข่งขันกันในเกมยอดนิยม:
- Graphics (Ryzen 7000) เร็วกว่า 42% ในความละเอียด 1080p
นี่คือช่วงความแตกต่างของประสิทธิภาพที่สังเกตได้จากเกมยอดนิยม:
- ในเกม Grand Theft Auto V ด้วยความละเอียด 1080p และการตั้งค่า High Preset อุปกรณ์ Graphics (Ryzen 7000) เร็วกว่า 133%
- ในเกม Metro Exodus ด้วยความละเอียด 1440p และการตั้งค่า Ultra Preset อุปกรณ์ UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เร็วกว่า 1400%
โดยรวมแล้ว ในเกมยอดนิยม:
- Graphics (Ryzen 7000) เหนือกว่าใน 6การทดสอบ (10%)
- UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เหนือกว่าใน 53การทดสอบ (84%)
- เสมอกันใน 4การทดสอบ (6%)
สรุปข้อดีและข้อเสีย
คะแนนประสิทธิภาพ | 4.44 | 14.09 |
ความใหม่ล่าสุด | 26 กันยายน 2022 | 30 มีนาคม 2021 |
การผลิตชิปด้วยลิทอกราฟี | 6 nm | 14 nm |
Graphics (Ryzen 7000) มีข้อได้เปรียบ ได้เปรียบด้านอายุการเปิดตัวอยู่ที่ 1 ปี และมีกระบวนการลิทอกราฟีที่ก้าวหน้ากว่าถึง 133.3%
ในทางกลับกัน UHD Graphics 730 (Rocket Lake) มีข้อได้เปรียบ มีคะแนนประสิทธิภาพรวมสูงกว่าถึง 217.3%
UHD Graphics 730 (Rocket Lake) เป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Radeon Graphics (Ryzen 7000) ในการทดสอบประสิทธิภาพ
หากคุณยังมีคำถามเกี่ยวกับการเลือก GPU ที่รีวิวไว้ สามารถถามได้ในส่วนความคิดเห็น แล้วเราจะตอบกลับ